Page 353 - kpi19903
P. 353

316



                       การเปรียบเทียบตัวแบบเพื่อใช้ในการวิเคราะห์และท านายผลการเลือกตั้ง พบว่าตัวแบบวิธีก าลังสองน้อย
               ที่สุด ไม่ใช่ตัวแบบที่มีความเหมาะสมในการท านายผลการเลือกตั้ง เนื่องจากผลการเลือกตั้งมีความสัมพันธ์เชิงพื้นที่

               เกิดขึ้น ดังนั้นการใช้ตัวแบบ Spatial Error Regression Model จึงเป็นวิธีที่มีความเหมาะสมที่สุดที่จะเป็นตัวแบบ

               ส าหรับพยากรณ์ผลการเลือกตั้งของไทย และตัวแบบพยากรณ์ได้ดีในผลการเลือกตั้งของพรรคเพื่อไทยและพรรค
               ประชาธิปัตย์ ทั้งการเลือกตั้งแบบแบ่งเขต รวมถึงพฤติกรรมการใช้สิทธิ์เลือกตั้ง ในขณะที่พรรคภูมิใจไทยและ

               พรรคชาติไทยพัฒนา ตัวแบบจะพยากรณ์การเลือกตั้งแบบบัญชีรายชื่อของสองพรรคนี้ได้ดีกว่า ส่วนการเลือกตั้ง

               แบบแบ่งเขตนั้นยังมีความสามารถในการท านายไม่สูงมากเท่าแบบบัญชีรายชื่อ
                       ตัวแปรทางภูมิศาสตร์ตัวที่สี่ที่สามารถท านายผลการเลือกตั้งได้ดีคือ ความเป็นเมือง ผลการศึกษาโดยสรุป

               พบว่าความเป็นเมืองสัมพันธ์ทางบวกกับการเลือกพรรคประชาธิปัตย์และสัมพันธ์ทางลบกับการเลือกพรรคเพื่อไทย

               นอกจากนี้ความเป็นเมืองยังสัมพันธ์ทางบวกกับร้อยละของผู้ที่ไม่ไปใช้สิทธิเลือกตั้งและร้อยละของผู้ไม่ประสงค์จะ
               ลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง แต่สัมพันธ์ทางลบกับร้อยละของบัตรเสีย

                       ผลการศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างความเป็นเมืองกับผลการเลือกตั้งและพฤติกรรมการเลือกตั้งของเขต

               เลือกตั้งพบว่า 1. ดัชนีสวัสดิการสังคมของเมืองและดัชนี้ความเป็นเศรษฐกิจเมืองสัมพันธ์ทางลบกับร้อยละที่เลือก
               พรรคเพื่อไทย 2.ดัชนีความหนาแน่นของเมืองและดัชนีความเป็นเศรษฐกิจเมืองสัมพันธ์ทางบวกกับร้อยละที่เลือก

               พรรคประชาธิปัตย์ 3. ดัชนีความหนาแน่นของเมืองสัมพันธ์ทางลบกับร้อยละที่เลือกพรรคภูมิใจไทย 4.ดัชนี

               สวัสดิการสังคมเมืองและดัชนีความเป็นเศรษฐกิจเมืองสัมพันธ์ทางลบกับร้อยละของบัตรเสีย 5. ดัชนีความ
               หนาแน่นของเมืองสัมพันธ์ทางบวกกับร้อยละการไม่ไปใช้สิทธิเลือกตั้ง (No Vote) 6. ดัชนีความหนาแน่นของเมือง

               ดัชนีสวัสดิการสังคมของเมืองและดัชนี้ความเป็นเศรษฐกิจเมืองสัมพันธ์ทางบวกกับร้อยละของผู้ที่ไม่ประสงค์จะ

               ออกเสียงเลือกตั้ง (Vote No)
                       สาเหตุที่ความเป็นเมืองไม่ว่าจะเป็นดัชนีสวัสดิการสังคมของเมือง ดัชนีความหนาแน่นของเมือง และดัชนี้

               ความเป็นเศรษฐกิจเมืองสัมพันธ์กับผลการเลือกตั้งและพฤติกรรมการใช้สิทธิเลือกตั้งสามารถอธิบายได้ว่า

                       หนึ่งผลการศึกษานี้ยังสนับสนุนทฤษฎีสองนคราประชาธิปไตยอยู่ (Laothamatas, 2013; Loathamatas,
               1996) เพราะยังมีการแบ่งแยกทางการเมืองระหว่างเมืองและชนบท (Urban-Rural Political Divide) อยู่ เขต

               เลือกตั้งในชนบทจะเลือกพรรคเพื่อไทยและเขตเลือกตั้งในเมืองจะเลือกพรรคประชาธิปัตย์

                       สอง เขตเลือกตั้งที่มีความเป็นเมืองต่ า มีความเป็นชนบทสูง มีแนวโน้มที่ประชาชนจะมีระดับการศึกษาต่ า
               กว่า ท างานในภาคเกษตรกรรม ท าให้มีเวลาว่างพอที่จะไปเลือกตั้งได้สะดวก นอกจากนี้ในสังคมชนบทมีการ

               ว่างงานแฝง (Hidden unemployment) ในภาคเกษตรสูงกว่า การมีเวลาว่างอาจจะท าให้สะดวกในการไปใช้สิทธิ

               เลือกตั้งได้ง่ายกว่าประชาชนในเขตเลือกตั้งที่มีความเป็นเมืองสูงกว่ามีภาระหน้าที่การงานสูงมากขึ้นตามระดับ
               การศึกษา
   348   349   350   351   352   353   354   355   356   357   358