Page 26 - kpi18343
P. 26
กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการสร้างความปรองดอง
ก ร ณี ศึ ก ษ า ใ น ต่ า ง ป ร ะ เ ท ศ
ต่อมา กระบวนการตามหลักความยุติธรรมระยะเปลี่ยนผ่านนี้ ก็ได้รับความ
นิยมมากขึ้นเรื่อยๆ ในการนำมาใช้จัดการกับความขัดแย้ง ไม่เฉพาะแต่ความขัดแย้ง
ที่เกิดจากการละเมิดสิทธิมนุษยชนอันเนื่องมาจากการปกครองด้วยระบอบเผด็จการ
ทหารเท่านั้น หากแต่นำมาใช้จัดการกับความขัดแย้งอันนำไปสู่ความรุนแรงที่เกิดจาก
สาเหตุอื่นๆ เช่นกัน เช่น ความรุนแรงที่เกิดจากความขัดแย้งทางด้านชาติพันธุ์ หรือ
ชนเผ่า ก็ล้วนแล้วแต่นำกระบวนการเหล่านี้มาปรับใช้ทั้งสิ้น จนนิยมเรียกต่อมาว่า
“ความยุติธรรมในระยะเปลี่ยนผ่าน”
อย่างไรก็ตาม ชื่อเรียกว่า “ความยุติธรรมในระยะเปลี่ยนผ่าน” นี้ ก็ถูก
วิพากษ์วิจารณ์เป็นอย่างมากจากนักวิชาการ ว่าการเรียกด้วยชื่อดังกล่าวอาจทำให้
เกิดความเข้าใจผิดได้ เนื่องจาก นักวิชาการบางกลุ่มเห็นว่า การเรียกกระบวนการ
จัดการกับความรุนแรงว่า “ความยุติธรรมในระยะเปลี่ยนผ่าน” นี้ อาจทำให้ผู้รับสาร
เข้าใจคลาดเคลื่อนได้ว่า เป็น “ความยุติธรรม” ที่ถูกปรับให้เคร่งครัดน้อยลง
เนื่องจากสถานการณ์พิเศษที่เรียกว่า “ระยะเปลี่ยนผ่าน” ทำให้เกิดคำถามว่า ที่จริง
แล้ว “ความยุติธรรมในระยะเปลี่ยนผ่าน” จะสามารถสร้างความยุติธรรมที่แท้จริง
ได้หรือไม่
ด้วยเหตุนี้ ช่วงหนึ่ง นักวิชาการจำนวนมากได้พยายามเรียกชื่อกระบวนการ
เหล่านั้นเสียใหม่ เช่น นักวิชาการบางกลุ่มเรียกว่า “การจัดการกับอดีต” (dealing
with the past) หรือ เรียกว่า “ความยุติธรรมหลังความขัดแย้ง” (post-conflict
justice) หากแต่ชื่อที่เป็นที่นิยมเรียกกัน ก็ยังเป็นชื่อ “ความยุติธรรมในระยะ
เปลี่ยนผ่าน” อยู่นั่นเอง ซึ่งคำนิยามของคำว่า “ความยุติธรรมในระยะเปลี่ยนผ่าน”
ที่แพร่หลายมากที่สุด คือ คำนิยามของศูนย์ความยุติธรรมระยะเปลี่ยนผ่านระหว่าง
ประเทศ (International Center for Transitional Justice หรือ ICTJ) โดยได้
นิยามว่า
สถาบันพระปกเกล้า
17