Page 257 - kpi17968
P. 257
246
นอกจากนี้ยังมีงานวิจัยที่ศึกษา “นิติสำนึก” ของบุคคล โดยเลือกกรณี
ศึกษาที่เป็นผู้ได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุในจังหวัดเชียงใหม่ ที่แสดงว่าผู้ได้รับ
ความเสียหายจากการถูกละเมิดไม่ได้ให้ความสำคัญกับระบบกฎหมายในการ
เยียวยาความเสียหายที่เกิดขึ้นกับตนเอง ปรากฏการณ์เช่นนี้ไม่สอดคล้องกับ
ปรากฏการณ์ทั่วไปในยุคโลกาภิวัตน์และในสังคมสมัยใหม่ซึ่ง “สิทธิ” จะเป็นที่
ตระหนักถึง และการใช้กลไกทางกฎหมายในการปกป้องสิทธิขยายตัวมากขึ้น
สภาวการณ์ที่ชาวบ้านในประเทศไทยไม่นิยมและไม่สามารถพึ่งระบบกฎหมายเช่น
นี้ทำให้ชีวิตมีความเสี่ยงสูงขึ้นมาก เพราะในปัจจุบันชุมชนของชาวบ้านมีบทบาท
ต่อชีวิตน้อยลง และชาวบ้านควรจะได้รับการปกป้องจากกฎหมายเป็นการชดเชย
แต่การณ์กลับปรากฏว่าความเชื่อมั่นของประชาชนต่อระบบกฎหมายไม่ได้เพิ่ม
มากขึ้นแต่อย่างใด 31
ปัญหาจากระบบกฎหมายและกระบวนการยุติธรรมที่ทำให้ประชาชน
ส่วนใหญ่มี “นิติสำนึก” ในลักษณะที่กล่าวข้างต้น นอกจากจะส่งผลกระทบ
ต่อความเป็นธรรมและความมั่นคงชีวิตของประชาชนแล้ว ยังทำให้ความสนใจ
เกี่ยวกับการตรากฎหมายของสภานิติบัญญัติและการผลักดันให้เกิดการใช้หลัก
นิติธรรมไม่เข้มแข็งเท่าที่ควร
ปัญหาด้านวัฒนธรรมทางกฎหมายและวัฒนธรรมทางการเมืองนับเป็น
ปัจจัยสำคัญประการหนึ่งที่เป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาระบอบประชาธิปไตยแบบมี
ส่วนร่วม ดังนั้น หากมีการใช้หลักนิติธรรมโดยมีการพัฒนาระบบกฎหมายและ
กระบวนการยุติธรรมให้มีประสิทธิภาพในการแก้ไขปัญหาของประชาชน และ
มีกลไกในการกำกับตรวจสอบกระบวนการยุติธรรมทุกระดับให้ยึดมั่นใน
หลักนิติธรรมแล้ว ก็จะส่งผลให้ชีวิตของประชาชนมีความมั่นคงมากขึ้น และ
พร้อมที่จะเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมทางการเมืองในระบอบประชาธิปไตย และ
พร้อมที่จะกำกับดูแลให้เกิดการใช้หลักนิติธรรมอย่างแท้จริง
31 David M. Angel and Jaruwan S. Engel, Tort, Custom and Karma:
Globalization and Legal Consciousness in Thailand, Chiang Mai: Silkworm Books,
2010. และ สมชาย ปรีชาศิลปกุล, “พรมแดนความรู้ของการศึกษากฎหมายแนวนิติสำนึกใน
สังคมไทย” วารสารนิติสังคมศาสตร์ ปีที่ 8 ฉบับที่ 1/2558 (มกราคม-มิถุนายน): 24-40.
การประชุมกลุมยอยที่ 2