Page 220 - kpi17968
P. 220

209




                   อันเป็นบทบัญญัติที่ไม่เป็นธรรมอยู่เช่นนั้นจริง ในการนี้พระองค์ทรงตำหนิผู้ที่ตรา

                   บทกฎหมายที่ขาดความเป็นธรรมนี้ไว้ว่า “พระราชกำหนดบทพระอายการนั้นก็
                   ฟั่นเฟือนวิปริตผิดซ้ำต่างกันไปเปนอันมาก ด้วยคนอันโลภหลงหาความลอายแก่
                   บาปมิได้ ดัดแปลงแต่งตามชอบใจไว้พิภากษาภาให้เสียยุติธรรมสำหรับแผ่นดินไป

                   ก็มีบ้าง...” จากนั้นจึงทรงสั่งให้ชำระกฎหมายทั้งหมดในภาพรวมและทรงตรวจขั้น
                   สุดท้ายด้วยพระองค์เองดังปรากฏความว่า “... จึงทรงพระกรรุณาโปรดเกล้าโปรด
                   กระหม่อม จัดข้าทูลลอองทุลีพระบาท ที่มีสะติปัญญาได้...11 คน ชำระ พระราช

                   กำหนดบทพระอายการอันมีอยู่ในหอหลวงตั้งแต่พระธรรมสาตรไปให้ถูกถ้วน....
                   ทรงพระอุตสาหทรงชำระดัดแปลงซึ่งบทอันวิปลาดนั้นให้ชอบโดยยุติธรรมไว้ ด้วย
                   พระไทยทรงพระมหากรรุณาคุณจให้เปนประโยชน์แก่กระษัตรอันจดำรงแผ่นดิน

                   ไปในภายหน้า”

                         แต่ไม่ปรากฏหลักฐานตอนใดเลยว่า พระองค์ได้ทรงสั่งเปลี่ยนแปลง

                   คำพิพากษา หรือทรงตำหนิโทษผู้พิพากษาตุลาการผู้ตัดสิน ทั้งนี้เนื่องจากการ
                   พิจารณาพิพากษาคดีนี้ผู้พิพากษาตุลาการได้กระทำตามตามกฎหมายที่ใช้บังคับ
                   ขณะนั้น แต่ทรงตำหนิผู้ตราบทกฎหมายที่ไม่ยุติธรรมนั้น และทรงสั่งให้แก้ไข

                   โดยเร็วคือการชำระกฎหมายครั้งใหญ่ในภาพรวมดังกล่าวมาแล้วเพื่อให้เกิดความ
                   เป็นธรรม


                         การที่พระมหากษัตริย์ในระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์มีพระราชอำนาจ
                   เป็นล้นพ้น พระบรมราชโองการใดย่อมถือว่ามีผลบังคับเป็นกฎหมาย จะกลับแก้
                   เพิกถอนเปลี่ยนแปลงอย่างไรก็ย่อมกระทำได้ แต่พระองค์ก็ไม่ทรงกระทำในสิ่งที่

                   มิได้ถูกบัญญัติไว้ตามกฎหมายในขณะพิจารณาและพิพากษาคดี เหตุการณ์นี้คือ
                   สิ่งแสดงให้เห็นว่าพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ทรงยึดมั่นใน
                   “การปกครองที่ถือกฎหมายเป็นใหญ่ หรือการปกครองที่ถือหลักนิติธรรม (The

                   Rule of Law)”


                         ในการปกครองไม่ว่าที่ใด ประการแรกตัวบทกฎหมายต่างๆ ที่มีผลบังคับใช้
                   ต้องมีความเป็นธรรม เสมอภาค มุ่งประสงค์ใช้เป็นการทั่วไปโดยไม่เลือกปฏิบัติ
                   ไม่ว่าผู้ที่อยู่ภายใต้บังคับของกฎหมายนั้นจะแตกต่างกันที่เหล่ากำเนิด เพศ หรือ
                   ศาสนา ย่อมอยู่ในความคุ้มครองแห่งกฎหมายเสมอกัน ประการถัดไปการบังคับ





                                                                     การประชุมกลุมยอยที่ 2
   215   216   217   218   219   220   221   222   223   224   225