Page 218 - kpi17968
P. 218
207
คือคดีความที่มีโทษหลวง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการกระทำความผิดตามบทบัญญัติ
ต่างๆ ในพระไอยการอาชญาหลวง เช่น ยักยอกทรัพย์ของพระเจ้าอยู่หัว
ความแพ่ง ตามกฎหมายตราสามดวงเป็นคนละ คดีในอดีตที่พิพาทเกี่ยวกับ
เรื่องด่าสบประมาทกัน ทำร้ายร่างกายกันไม่ถึงเป็นอันตรายสาหัส การกระทำ
อนาจาร ลักทรัพย์ กู้หนี้ ฟ้องหย่าขอแบ่งทรัพย์สิน ต่างถือเป็นคดีแพ่งทั้งสิ้น
ส่วนศาลหลักที่มีอำนาจชำระคดีในกรณีเกิดเหตุในราชธานี ได้แก่ ศาลแพ่งเกษม
ศาลแพ่งกลาง ศาลแพ่งวัง ซึ่งแตกต่างกับความหมายของคดีแพ่งปัจจุบัน ที่หมาย
ถึงคดีที่พิพาทกันเรื่องทรัพย์สินหรือสิทธิต่างๆ ที่เป็นของส่วนเอกชน และไม่มีโทษ
ทางอาญาใดๆ มาเกี่ยวข้อง
จะเห็นได้ว่าบทบัญญัติแห่งกฎหมายเก่า เน้นการอำนวยความยุติธรรมโดย
รวดเร็ว คดีความที่มีโทษสูงยิ่งต้องพิจารณาให้เสร็จโดยเร็ว คดีนครบาลซึ่งเป็นคดี
อุกฉกรรจ์ กฎหมายกำหนดให้ต้องพิจารณาให้แล้วเสร็จภายใน 15 วัน ถ้าเป็นคดี
อาชญาซึ่งมีโทษรองลงมาต้องพิจารณาให้แล้วเสร็จภายใน 1 เดือน 15 วัน และ
คดีแพ่งซึ่งมีโทษน้อยกว่าคดีสองประเภทแรก กลับให้เวลาพิจารณามากกว่าคือ
ต้องพิจารณาให้แล้วเสร็จภายใน 3 เดือน
ผู้ที่อ่านบทความนี้ คงทราบดีว่าสภาพการณ์ในการอำนวยความยุติธรรม
ในปัจจุบัน ยังมีความล่าช้า ไม่ทันการ และบางคดีทำให้เสียความยุติธรรมไป
เพราะเหตุล่าช้า จะเห็นว่าปัญหาอุปสรรคใหญ่ในประเด็นนี้ที่มีมาตั้งแต่สมัย
อยุธยาจนถึงปัจจุบัน ยังไม่มีหรือขาดมาตรการที่เพียงพอและเหมาะสมในการ
แก้ไข ผู้เขียนเห็นว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่พอๆ กับการรักษาหลักนิติธรรมให้คงไว้
ในการเมืองการปกครอง การอำนวยความยุติธรรมเป็นเครื่องมือสำคัญในการ
ปกครอง หลักนิติธรรมในกระบวนการยุติธรรมที่ล่าช้าคงเป็นเสมือนยารักษาโรค
ที่หมดอายุ ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องต้องระดมความคิดเพื่อหาแนวทางแก้ไขที่เหมาะสม
ให้ได้โดยเร็ว
เมื่อพิจารณาเนื้อหาในกฎหมายตราสามดวงต่อไป พบว่าบทบัญญัติ
ส่วนใหญ่เป็นตัวบทกฎหมายที่ใช้บังคับมาตั้งแต่สมัยต้นอยุธยา เมื่อมีการชำระ
ครั้งใหญ่ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ก็ใช้บังคับ
การประชุมกลุมยอยที่ 2