Page 145 - kpi17968
P. 145
134
ไปลองทำข้อมูลมาดูก็คือสัมภาระที่รถของเรา นั่นก็คือ สิ่งที่รัฐธรรมนูญ
จะต้องแบกหามไปขนส่งไปถึงปลายทางมันหนักขึ้นทุกวัน เรามีจำนวนถ้อยคำ
ในรัฐธรรมนูญตั้งแต่ฉบับแรกใน พ.ศ. 2475 ประมาณ 3700 ถ้อยคำ
ร่างรัฐธรรมนูญของ ดร.ถวิลวดี มี 43000 ถ้อยคำ ซึ่งจะเห็นว่ามากขึ้นเรื่อยๆ
มากขึ้นเกิน 10 เท่า เพราะว่าเราเอาความหวังทุกอย่างไปฝากไว้ในรัฐธรรมนูญ
หมด ไม่ว่าเรื่องประชาธิปไตย นิติธรรม นิติรัฐ เรื่องเด็ก เรื่องผู้หญิง สิทธิชุมชน
เรื่องอะไรต่าง ๆ แล้วเราก็จะพบว่าความขัดแย้งมันก็จะสูงมาก เช่นเดียวกันอีก
ประเทศไทย ผมมีความรู้สึกว่าโจทย์ใหญ่ในการออกแบบสถาบันทางการเมืองก็คือ
ในทางกฎหมายเอาทุกเรื่องไปฝากกับรัฐธรรมนูญ และในทางการเมืองก็เอาทุก
เรื่องไปฝากไว้กับองค์กรอิสระ เพื่อให้ไปคานกับรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง
ความขัดแย้งเดิมพันก็จะสูงแล้วมันก็มีโอกาสเสียความชอบธรรมได้ง่าย
ผมคิดว่าถ้าจะออกแบบรถยนต์คันหนึ่งต้องมีส่วนประกอบสามส่วน
ส่วนหนึ่ง คือ คันเร่ง ส่วนหนึ่ง คือ เบรก และส่วนหนึ่ง คือ พวงมาลัย ซึ่งก็คือ
สามเรื่องที่เราคุยกันในวันนี้ คันเร่ง คือ ต้องมีรัฐที่เข้มแข็ง ถ้ารัฐไม่เข้มแข็งจะไม่
สามารถแก้ปัญหาอะไรได้ ยกตัวอย่าง เราคนไทยเรามีรัฐที่เข้มแข็งพอสมควรเรา
จึงไม่รู้สึกว่าการไม่มีรัฐเข้มแข็งเป็นปัญหา แต่ถ้าเราไปดูหลายประเทศที่
ท่านอาจารย์วิทิต ท่านเดินทางไปดูมานะครับ ซีเรีย ก็ดี อัฟกานิสถาน ก็ดี เป็น
ประเทศที่รัฐล้มเหลวและประเทศเหล่านั้นก็ไปไหนไม่ได้เลย เพราะฉะนั้นการมีรัฐ
ที่เข้มแข็งเป็นเรื่องที่จำเป็นพื้นฐาน แต่นอกจากการมีรัฐเข้มแข็งแล้วต้องมีเบรก
คือ มีนิติรัฐด้วย เพราะการที่มีรัฐบาลเสียงข้างมากรัฐบาลเข้มแข็งอาจจะพารถ
คันนี้ไปไหนก็ได้ ด้วยความเร็วเท่าไหร่ก็ได้ เพราะฉะนั้นการที่มีเบรกที่เหมาะสม
เป็นเรื่องที่สำคัญ ส่วนเรื่องของการที่ต้องมีพวงมาลัย ก็คือ รัฐบาลที่จะต้อง
สะท้อนกับความต้องการของประชาชน ซึ่งการเลือกตั้งหรือว่าประชาธิปไตย
ในความหมายแคบนั้นก็คือตัวพวงมาลัย ทำให้รัฐบาลตอบสนองกับประชาชนอันนี้
ก็คือเรื่องที่มีความจำเป็น
ถ้ามาดูโมเดลรถรัฐธรรมนูญไทยดูว่ามันมีอะไรบ้าง เบรก ก็คือ รัฐสภา กับ
องค์กรอิสระ ผมคิดว่าเรายังใช้เบรกที่เป็นรัฐสภาน้อยเกินไปในกระบวนการ
การเมืองไทย แต่เราใช้องค์กรอิสระเยอะเกินไป ส่วนคันเร่ง คือ ตัวระบบเลือกตั้ง
การอภิปรายแสดงทัศนะ