Page 148 - kpi17968
P. 148
137
โจทย์ที่สำคัญคือต้องปรับคันเร่งปรับเบรกให้มันสมดุลกัน ใช้คันเร่งให้
รัฐบาลเข้มแข็ง ใช้เบรกมาตรฐานให้มากที่สุดก่อน ก่อนที่จะไปใช้เบรกพิสดาร
เบรกมาตรฐานก็คือเบรกโดยรัฐสภา ยกตัวอย่างเช่น เอาเรื่องของการใช้เงินนอก
งบประมาณ ก็ควรให้กลับไปใช้กลไกทางรัฐสภา ถ้าเราดูประวัติศาสตร์ของการ
เกิดนิติธรรม การเกิดนิติรัฐ หรือการเกิดรัฐบาลประชาธิปไตยในต่างประเทศ
ไม่ว่าดูประวัติศาสตร์ในอังกฤษที่เกิด Magna Carta หรือเกิดอะไรต่างๆ ขึ้นมา
ก็เป็นตัวอย่างที่เกิดขึ้นจากการที่รัฐบาลจะเอาเงินไปทำสงครามแล้วไม่ขออนุญาต
จากรัฐสภา แล้วรัฐสภาตอนนั้นแม้ไม่เป็นประชาธิปไตยเต็มที่ก็คือพวกสภาขุนนาง
ก็ขัดขวางรัฐบาล ประชาธิปไตยจึงค่อยๆ เกิดขึ้น แล้วก็เกิดการควบคุมการใช้
อำนาจของรัฐ ประเทศไทยควรใช้เบรกมาตรฐานตามกลไกรัฐสภา โดยทำรัฐสภา
ให้เข้มแข็ง
ทั้งนี้ สถาบันพระปกเกล้าควรจะเป็นคลังสมองให้รัฐสภาทำงานให้เข้มแข็ง
มากที่สุด ทางสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (TDRI) ก็ร่วมมือกับ
สถาบันพระปกเกล้า อยากจะช่วยทำให้รัฐสภาเข้มแข็ง เช่น ให้รัฐสภาตรวจสอบ
งบประมาณให้ดีขึ้น โดยการมีกลไกสำนักงบประมาณของรัฐสภา หรือที่เรียกว่า
Parliamentary Budget Office ถ้ากลไกตามรัฐสภาที่มีอยู่กลไกมาตรฐานไม่ตอบ
โจทย์จึงค่อยไปคิดกลไกอื่น ไม่ใช้กระโดดไปหากลไกอื่นตั้งแต่เริ่มต้น และที่สำคัญ
อย่าให้มีรัฐธรรมนูญซึ่งใหญ่ เทอะทะ แก้ยากเกินไป สุดท้ายจะไม่มีช่องทางให้
ปรับแต่ง เพราะระบบการเมืองเป็นสิ่งที่ต้องปรับแต่งตลอดเวลา ถ้ารัฐธรรมนูญ
วิจิตรเกินไป ปรับแต่งไม่ได้ สุดท้ายก็ต้องมีการปฏิวัติ รัฐประหารเกิดขึ้นอีกเพื่อ
แก้รัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นสิ่งที่ผมคิดว่าเป็นสิ่งที่คนไทยคงไม่อยากเห็น
โดยสรุป มันมีความขัดแย้งโดยเนื้อแท้ในตัวมันเอง ระหว่างการเป็น
ประชาธิปไตย นิติธรรม อย่าไปคิดฝันสวยๆ ว่าของพวกนี้มันเป็นเรื่องที่ไปด้วยกัน
ได้โดยง่าย ผมไม่เชื่อว่าไปด้วยกันได้โดยง่าย เพราะว่าการที่มีประชาธิปไตยเสียง
ข้างมาก การสร้างรัฐให้เข้มแข็งก็จะมีโอกาสที่รัฐเข้มแข็งนั้นมาละเมิดสิทธิ
เสรีภาพของประชาชน จึงมีความขัดแย้งโดยเนื้อแท้ แต่ความขัดแย้งนี้ไม่ใช่แปลว่า
ไม่มีโอกาสในการประสานความขัดแย้งได้ มีโอกาสประสานความขัดแย้งได้
มีโอกาสประสานความขัดแย้ง ถ้าประสานความขัดแย้งได้ดีไปสู่ประชาธิปไตย
การอภิปรายแสดงทัศนะ
