Page 501 - kpi17073
P. 501
500 การประชุมวิชาการ
สถาบันพระปกเกล้า ครั้งที่ 16
สำหรับกรณีศึกษาของต่างประเทศที่ผู้เขียนจะขอนำเสนอ คือ กรณีศึกษา
ของประเทศอียิปต์ที่ภาคประสังคมขับเคลื่อนในกระบวนการนิติบัญญัติโดยอาศัยการดำเนินงาน
ในลักษณะของการเป็นหุ้นส่วน (Partnership) เช่น ความร่วมมือระหว่างภาคประชาสังคมกับ
สมาชิกรัฐสภา คณะกรรมาธิการของรัฐสภา พรรคการเมือง ตลอดจนองค์กรและสถาบันต่างๆ ที่
มีความเกี่ยวข้องกับกระบวนการนิติบัญญัติ ซึ่งยุทธศาสตร์ในการทำงานแบบหุ้นส่วนนี้ ทำให้
กฎหมายการลงทุนของประเทศอียิปต์ (The Investment Law,1997) ประกาศใช้บังคับเป็น
กฎหมายได้ภายในระยะเวลาอันรวดเร็ว (Center for Development Research : University of
Bonn, 2005)
(3) อารยะขัดขืน (Civil Disobedience)
ในประเทศที่กระบวนการนิติบัญญัติมีความเข้มแข็ง เช่น ประเทศ
สหรัฐอเมริกา และประเทศฝรั่งเศส มักพบว่าการเมืองในระบบตัวแทนและการเมืองภาค
ประชาชนดำเนินการไปในทิศทางที่สอดรับกันอย่างเป็นระบบ มีกระบวนการจัดทำกฎหมาย
(Law Making Process) ที่เกิดจากแนวนโยบายที่ประชาชนมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วนส่งผลให้
กฎหมายที่ออกโดยกระบวนการรัฐสภามีความศักดิ์สิทธิ์และผู้คนทั่วไปยอมรับและปฏิบัติตาม
ต่างจากในหลายๆประเทศ เช่น ประเทศไทยที่กระบวนการจัดทำกฎหมายสะท้อนให้เห็นถึงแนว
ความคิดแบบ Top-Down Approach กล่าวคือ เป็นกระบวนการที่เกิดจากแนวนโยบายของกลุ่ม
บุคคลที่มุ่งรักษาผลประโยชน์ให้แก่กลุ่มผลประโยชน์เพียงบางกลุ่มและขาดการมีส่วนร่วมของ
ประชาชนอย่างกว้างขวาง สภาพปัญหาดังกล่าวนำไปสู่ปฎิสัมพันธ์เชิงปะทะระหว่างรัฐและภาค
ประชาชน และพัฒนาไปสู่การปฎิเสธอำนาจรัฐที่มีลักษณะ“อารยะขัดขืน” ในประเด็นดังกล่าว
มานิตตา ชาญไชย (2552;10) ได้อรรถาธิบายไว้อย่างน่าสนใจว่า “อารยะขัดขืน” คือการใช้
สันติวิธีโดยมีเป้าประสงค์ในการก่อให้เกิดการเปลี่ยนทางกฎหมายและนโยบายของรัฐบาล เพื่อ
ต้องการให้สังคมเห็นว่ามีความไม่เป็นธรรมเกิดขึ้น โดยการไม่ปฏิบัติตามกฎหมายและนโยบายที่
ประชาชนเห็นพ้องต้องกันว่าปราศจากความเป็นธรรม
๏ กรณีศึกษาจากต่างประเทศ
จิระพงษ์ เต็มเปี่ยม (2557) ได้นำเสนอกรณีศึกษา “ขบวนการสิทธิ
พลเมือง” (Civil Rights Movement) ช่วงระหว่าง ค.ศ.1955-1968 ของประเทศสหรัฐอเมริกา
ที่มีการต่อสู้เพื่อสิทธิความเท่าเทียมกันของคนผิวดำไว้อย่างน่าสนใจ เช่น สุภาพสตรีผิวดำปฏิเสธ
ที่จะลุกให้ที่นั่งแก่คนผิวขาวบนรถประจำทางกฎหมายท้องถิ่นที่บัญญัติให้คนผิวดำสละที่นั่งโดยสาร
ให้คนผิวขาว ส่งผลให้สุภาพสตรีท่านนั้นถูกตัดสินจำคุก จากนั้นกลุ่มคนผิวดำจึงพากันประท้วง
จนกระทั่งรัฐบาลท้องถิ่นต้องยกเลิกกฎหมายฉบับดังกล่าวและเป็นที่รู้จักกันดีในนามของการ
คว่ำบาตรรถประจำทางมอนต์โกเมอรี (Montgomery Bus Boycott) นอกจากนี้ ยังมีกรณีศึกษา
การประชุมกลุ่มย่อยที่ 5 ที่น่าสนใจ เช่น การรวมกลุ่มกันต่อสู้ของกลุ่มคนผิวดำโดยการฝ่าฝืนกฎหมายของรัฐบาลกลาง
สหรัฐอเมริกา เช่น การใช้วิธี Sit-In ในสถานที่สาธารณะต่างๆ เช่น สวนสาธารณะ ห้องสมุด
โรงภาพยนตร์ พิพิธภัณฑ์ เพื่อไม่ให้คนผิวขาวสามารถเข้ามาใช้บริการในสถานที่ดังกล่าวได้อย่าง