Page 462 - kpi17073
P. 462
การประชุมวิชาการ
สถาบันพระปกเกล้า ครั้งที่ 16 461
และความรุนแรง กลุ่มนี้จึงให้ความสำคัญกับการรวมตัวในลักษณะกลุ่มองค์กรหรือสมาคมภายใต้
สังคมที่จัดตั้งขึ้นใหม่ ทำการต่อรอง กดดันในรัฐมีนโยบายสาธารณะเพื่อเอื้อเฟื้อแก่กลุ่มตน
ผ่านพื้นที่ ช่องทาง และกลไกในระบบการเมืองปกติ เช่น การล็อบบี้ของสมาคมธุรกิจ
ภาคประชาสังคม กับการเมืองภาคพลเมือง
และการถ่วงดุลทางการเมือง
ดังที่ได้กล่าวมาแล้วว่ากระแสการพัฒนาที่เข้ามาพร้อมกับองค์กรพัฒนาเอกชนที่ทำงานเพื่อ
พัฒนาสังคมตั้งแต่ต้นทศวรรษที่ 2500 แนวคิดภาคประชาสังคมที่ขับเคลื่อนกระแสแนวคิด
ประชาธิปไตยเป็นกลุ่มที่มีทั้งปัญญาชน นักวิชาการ สื่อมวลชน เข้าร่วม และมีความกระตือรือร้น
ในการเคลื่อนไหวกลุ่มดังกล่าวใช้ประเด็นความเหลื่อมล้ำ และเรียกร้องประชาธิปไตยจนนำมาสู่
เหตุการณ์ที่นิสิต นักศึกษา ประชาชนเข้ามีส่วนทางการเมืองในปี พ.ศ. 2516 เหตุการณ์เวลานั้น
ได้รวมเอากลุ่มแนวคิดประชาสังคมทั้งหมดไว้ด้วยกันและได้ใช้พื้นที่ทั่วประเทศในการเคลื่อนไหว
ไปพร้อมๆ กันทำให้การเมืองภาคพลเมืองไม่ได้มีความหมายแยกแยะตามแนวคิดประชาสังคม
และมักรวมภาคประชาสังคมเข้าไว้กับการเมืองภาคพลเมืองตลอดมาซึ่งนักวิชาการจำนวนหนึ่ง
ใช้เป็นเหตุการณ์อ้างอิงว่าเป็นจุดเริ่มต้นของการเมืองภาคพลเมือง เพราะได้เห็นปฏิสัมพันธ์และ
การดุลอำนาจอย่างชัดเจนระหว่างรัฐกับประชาชน
ภาคประชาสังคมในการเมืองภาคพลเมืองได้แสดงความเฉพาะเจาะจงของกลุ่มในการในการ
เคลื่อนไหวแต่ละครั้ง เช่น ปรากฏการณ์ในเดือน พฤษภาคม 2535 ประชาชนในภาคประชาสังคม
ครั้งนั้นถูกเรียกว่า ม๊อบมือถือ แสดงให้เห็นองค์ประกอบสำคัญของประชาชนที่ร่วมอยู่ในการ
เคลื่อนไหวว่าเป็นกลุ่มชนชั้นกลางและมีอำนาจทางเศรษฐกิจมากขึ้น เช่นเดียวกับการเคลื่อนไหว
ของภาคประชาชนของผู้เดือดร้อนเรื่องผลผลิตทางการเกษตร กลุ่มประชาชนผู้เดือดร้อนด้าน
ทรัพยากรหรือที่ทำกิน กลุ่มประชาชนพิทักษ์สิ่งแวดล้อม หรือกลุ่มที่รวมปัญหาคล้ายๆ กันเข้าไว้
ด้วยกันเพื่อเสริมพลังต่อรองอย่างสมัชชาคนจน เครือข่ายสลัม 4 ภาค สมัชชาเกษตรกรรายย่อย
กลุ่ม คณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย (ครป.) กลุ่มประชาธิปไตยเพื่อประชาชน (ปXป)
เป็นต้น ขณะที่ความชัดเจนของประชาชนผู้เคลื่อนไหวก็อยู่ที่ประเด็นของการเคลื่อนไหวได้เช่นกัน
และประเด็นเหล่านั้นนั่นเองที่แสดงให้เห็นถึงความต้องการของประชาชนต่อนโยบายและการใช้
อำนาจหน้าที่ของรัฐในการบริหารบ้านเมือง ทั้งประเด็นที่ต้องการแก้ไข พัฒนา หรือป้องกัน
การเมืองภาคพลเมืองดังกล่าวจึงเป็นการเรียกร้อง ทวงถาม ตรวจสอบ และดุลอำนาจกับรัฐได้ใน
ฐานะพลเมืองที่มีสิทธิความเป็นพลเมือง สิทธิทางการเมือง และเป็นเจ้าของอำนาจอธิปไตย
วิกฤติเศรษฐกิจในปี พ.ศ. 2540 ได้สะท้อนให้เห็นว่านักการเมืองและพรรคการเมืองไทย
ไม่มีคุณสมบัติและคุณธรรมพอที่จะนำประเทศชาติไปสู่ความผาสุกและเจริญรุ่งเรือง เกิดกระแส
ความด้อยประสิทธิภาพของผู้แทนราษฎรและความคิดเห็นที่ว่าโครงสร้างทางการเมืองที่มีแต่
ผู้แทนราษฎรนั้นไม่เพียงพอต่อสำหรับการแก้ไขปัญหาของประเทศ และอาจเป็นสาเหตุแห่งปัญหา การประชุมกลุ่มย่อยที่ 5
เสียเอง ภาคประชาสังคมและการจัดการตนเองในแนวคิดประชาสังคมแบบชุมชนนิยมกลับมาได้