Page 458 - kpi17073
P. 458
การประชุมวิชาการ
สถาบันพระปกเกล้า ครั้งที่ 16 457
เปลี่ยนแปลงทางการเมืองได้ ภาคประชาสังคมก็อาจกลายเป็นฝ่ายสนับสนุนของอำนาจโดยเฉพาะ
อำนาจทุนได้เช่นกัน
กล่าวได้ว่า ประชาสังคมเป็นพัฒนาการทางความคิดต่อการการรวมกลุ่มของผู้คนทางสังคม
ในรูปแบบต่างๆ เช่น การรวมตัวเพื่อช่วยเหลือเกื้อกูลกันในยามวิกฤตที่เรียกว่า self-help ที่มัก
เกิดขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติโดยเฉพาะในชนบทเพื่อจัดการกับปัญหาธรรมชาติที่ประสบร่วมกัน
ไปจนถึงการก่อตัวของกลุ่มเพื่อน กลุ่มอาสาสมัคร กลุ่มสหภาพในสังคมเมืองสมัยใหม่ ซึ่งมี
ลักษณะของการจัดการตนเองมากกว่ากลุ่มช่วยเหลือตนเองในสังคมชนบท ภาคประชาสังคมยัง
รวมไปถึงกลุ่มทางศาสนาที่มีคุณลักษณะสำคัญของการไม่แบ่งแยกชนชั้น วรรณะ เพศ อายุ สีผิว
หรือความแตกต่างอื่นๆ (Ute Frevert, 2005, 66) อย่างไรก็ตาม การรวมกลุ่มที่มีเป้าหมาย
เฉพาะของกลุ่มในศตวรรษที่ 18 นั้นได้เป็นจุดเริ่มต้นของการเกิดของสโมสรหรือสมาคม (club)
ในศตวรรษต่อมา และได้กลายเป็นกลไกทางการเมือง เศรษฐกิจ และสังคม โดยเฉพาะเมื่อ
กระแสเสรีนิยมและการไม่ยุ่งเกี่ยวกับศาสนาในยุโรปรุ่งเรืองขึ้นในกลุ่มชนชั้นกลาง ซึ่งเป็นที่มา
ของความหมายประชาสังคมของ Jurgen Habermas (1929) ในศตวรรษต่อมา และการเกิด
ประชาสังคมในช่วงเวลาดังกล่าว ได้เกิดหลักการจัดการตนเอง (self-organization) ขึ้นในประชา-
สังคม ร่วมทั้งสมาชิกได้รับการบ่มเพาะหลักความเท่าเทียม ความสมัครใจ ความโปร่งใสใน
กระบวนการและการตัดสินใจ รวมทั้งการรู้จักจัดการด้านการคลังของประชาสังคม (Ute Frevert,
2005, 67)
หลักการจัดการตนเองนี้เองที่เป็นองค์ประกอบสำคัญอันขาดไม่ได้ของระบอบประชาธิปไตย
ที่ประชาชนถูกคาดหวังให้รู้จักดูแลเรื่องของตนเอง แม้จะมีผู้แทนในการใช้อำนาจทางการเมืองแล้ว
ก็ตาม ที่นักวิชาการร่วมสมัยเรียกว่าการมีส่วนร่วมทางการเมือง นั่นเอง
ในทางรัฐศาสตร์ร่วมสมัย นักวิชาการและนักปฏิบัติอาจไม่ได้มองประชาสังคมในภาพของ
ผู้คนที่หลากหลายแตกต่างที่เคลื่อนไหวหรือรวมตัวดังกล่าวแต่มองว่าภาคประชาสังคมเป็นภาพ
แทนขององค์กรทางการที่มีค่านิยมและเป้าหมายร่วมกัน หลายครั้งมักลดทอนความเป็นภาค
ประชาสังคมให้เหลือเพียง องค์กรพัฒนาเอกชน หรือ Non-Government Organizations ขณะที่มี
นักวิชาการอีกกลุ่มหนึ่งมองว่า ภาคประชาสังคมคือพื้นที่หรือเวที มากกว่าการรวมตัวกันอย่างเป็น
องค์กรทางการ แนวคิดนี้จึงมีความหมายรวมถึงการเคลื่อนไหวหรือการชุมนุมในที่สาธารณะซึ่ง
เป็นกิจกรรมที่ไม่จำเป็นต้องเกิดผ่านองค์กร หรืออธิบายว่าภาคประชาสังคมที่ต้องใช้พื้นที่นั้น
เป็นการทำหน้าที่หรือเป็นปฏิบัติการของภาคประชาสังคมนั่นเอง ในกลุ่มแนวคิดนี้ ภาคประชา-
ในส่วนของประชาสังคม ซึ่งประชาสังคมของกรัมซี่มีความหลากหลายกว่าของมาร์กซ์ และเป็นโครงสร้างส่วนบนของ
สังคม ที่ประกอบด้วย civil society และ political society โดยมีผู้ปกครองจะคอยควบคุมสังคม ด้วยกลไกการ
ปราบปราม (repressive apparatus) และด้วยกลไกการครอบงำทางความคิด (ideology apparatus)
สำหรับผู้เขียน แนวคิดของกรัมซี่มีความสำคัญที่ประชาสังคมพึงตระหนักต่อการทำงานของอุดมการณ์ใน
ประชาสังคมที่บ้างเป็นผลทางบวกต่อการส่งเสริมความเข้มแข็งของประชาสังคมบ้างก็ไม่ ในทางกลับกันประชาสังคม การประชุมกลุ่มย่อยที่ 5
เองต้องมีการสร้างอุดมการณ์ใหม่ (counter-hegemony) เพื่อท้าทายอุดมการณ์ที่ไม่ได้เสริมสร้างความเข้มแข็งของ
ภาคประชาสังคมเหล่านั้น