Page 316 - kpi17073
P. 316
การประชุมวิชาการ
สถาบันพระปกเกล้า ครั้งที่ 16 315
ว่าระบบราชการของสหรัฐอเมริกาเป็นระบบที่ให้อำนาจแก่ฝ่ายการเมืองไว้กว้างขวางพอสมควร
ดังจะเห็นได้จากตำแหน่งที่ข้าราชการการเมืองระดับสูงที่แต่งตั้งมาโดยประธานาธิบดีนั้นมีจำนวน
ค่อนข้างมาก เฉพาะที่ต้องมีการเสนอให้วุฒิสภาให้การรับรองยังมีจำนวนมากถึงกว่า 1,500 อัตรา
ป น: า สั พัน ้ารา การประ า เ ้
ในส่วนของประเทศ “ญี่ปุ่น” นั้นถือเป็นประเทศที่ฝ่ายข้าราชการประจำมีความเข้มแข็งกว่า
ฝ่ายข้าราชการการเมือง เนื่องโครงสร้างทางการเมืองของประเทศญี่ปุ่นที่ถูกออกแบบมาให้ฝ่าย
บริหารมาจากการเลือกตั้งของฝ่ายนิติบัญญัติและต้องรับผิดชอบต่อรัฐสภา ทำให้เสถียรภาพของ
ฝ่ายบริหารนั้นขึ้นอยู่กับความไว้วางใจของรัฐสภา และถึงแม้ในปัจจุบันพรรคเสรีประชาธิปไตยจะมี
เสียงข้างมากในสภาแต่ปรากฏว่ารัฐบาลที่มาจากพรรคเสรีประชาธิปไตยกลับไม่มีเสถียรภาพ
เนื่องจากมีการเปลี่ยนแปลงบุคคลที่เข้ามาเป็นผู้นำของรัฐบาลอย่างต่อเนื่อง ด้วยเหตุนี้จึงทำให้
ข้าราชการประจำมีความเข้มแข็งและมีบทบาทหลักในการขับเคลื่อนการบริหารราชการแผ่นดิน
มากกว่าข้าราชการการเมือง
ประกอบกับภายหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ประเทศญี่ปุ่นได้สร้างค่านิยมและวัตถุประสงค์
ร่วมกันในการเป็นรัฐที่มุ่งพัฒนา (Developmental State)ที่มีข้าราชการประจำเป็นกลไก
ขับเคลื่อนนโยบายดังกล่าว โดยมีบทบาทในการวางนโยบายทางเศรษฐกิจและนโยบายในการ
พัฒนาประเทศของญี่ปุ่น ด้วยเหตุนี้จึงสร้างให้เกิดวัฒนธรรมแบบราชการบางอย่าง เช่น การสร้าง
เครือข่ายของข้าราชการประจำที่จบการศึกษามาจากสถานศึกษาเดียวกันที่มีความเข้มแข็ง
31
(ในกรณีที่ชัดเจนมาก คือ เครือข่ายข้าราชการที่จบการศึกษาจากคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัย
โตเกียว)
หรือปรากฏการณ์ Amakudari ที่สืบเนื่องมาจากเครือข่ายข้าราชการที่จบการศึกษามาจาก
สถาบันเดียวกันที่เข้มแข็ง ทั้งนี้ ปรากฏการณ์ Amakudariก็คือ การลาออกหรือการยอมพ้นจาก
ตำแหน่งของข้าราชการประจำระดับสูง เพื่อเปิดทางให้กับข้าราชการที่เป็นเพื่อนร่วมรุ่น หรือ
รุ่นน้อง ที่จบการศึกษามาจากสถาบันเดียวกันได้ขึ้นดำรงตำแหน่งสำคัญนั้นแทน แต่ทว่าผู้ที่ออกจาก
ตำแหน่ง ก็จะได้รับการแต่งตั้งให้ไปดำรงตำแหน่งเป็นประธานกรรมการบริหารหรือผู้อำนวยการ
ในองค์กรเอกชนที่มีความใกล้ชิดกับราชการ หรือองค์การมหาชนที่อาจมีค่าตอบแทนที่สูงมาก
เป็นการทดแทนโดยวัฒนธรรมดังกล่าวได้สร้างให้เกิดระบบอุปถัมภ์ภายในกระบวนการแต่งตั้งโยก
ย้ายข้าราชการประจำระดับสูงที่ฝ่ายข้าราชการประจำมีอำนาจสูงโดยที่ข้าราชการการเมือง
ไม่สามารถเข้าไปแทรกแซงได้มากนัก
อย่างไรก็ตาม เป็นที่น่าสังเกตว่าในระยะหลัง ผู้ที่เป็นผู้นำรัฐบาลของญี่ปุ่น ต่างพยายาม
เข้าไปมีบทบาทในการลดทอนความเข้มแข็งของระบบราชการ และเข้าไปแทรกแซงระบบการ
บริหารงานบุคคลของข้าราชการประจำมากขึ้นโดยลำดับ เช่น เมื่อครั้งที่นาย Junichiro Koizumi
31 NiheerDasandi, The Politics-Bureaucracy Interface in Developing Countries: Characteristics,
Determinants, and Impact on Reform (Singapore: UNDP Global Centre for Public Service Excellence, การประชุมกลุ่มย่อยที่ 3
2014), pp. 6-9