Page 310 - kpi17073
P. 310
การประชุมวิชาการ
สถาบันพระปกเกล้า ครั้งที่ 16 309
ที่น่าสนใจต่อการการเมืองไทยในช่วงดังกล่าว โดย เอนก ได้กล่าวว่า ภายหลังจากการที่พลเอก
เปรม ติณสูลานนท์ ได้เข้ามาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีตั้งแต่ พ.ศ. 2523-2531 นั้นถือเป็น
ช่วงระยะเวลาที่กลุ่มผลประโยชน์บางกลุ่มเริ่มสามารถเข้ามามีบทบาทในการกดดันต่อ
กระบวนการนโยบายหรือการออกกฎหมายของรัฐในบางด้านเพิ่มมากขึ้นนอกเหนือไปจากกลุ่ม
ข้าราชการประจำ เช่น ในการกำหนดนโยบายทางด้านเศรษฐกิจ ทำให้การเมืองไทยไม่ได้มี
ลักษณะเป็นอำมาตยาธิปไตยเช่นในอดีต แต่กลับมีลักษณะใกล้เคียงกับตัวแบบที่เรียกว่า “ภาคี
รัฐ-สังคม แบบเสรี (Liberal Corporatism)” เสียมากกว่าอย่างไรก็ดี ภายใต้ปรากฏการณ์ใหม่นี้
ยังคงต้องยอมรับว่าโดยภาพรวม ข้าราชการประจำยังคงมีบทบาทสำคัญและสามารถบิดเบนหรือ
ต่อต้านข้อเรียกร้องจากกลุ่มผลประโยชน์และภาคสังคมได้อยู่พอสมควร รวมทั้งยังมีส่วนสำคัญใน
กำหนดความสัมพันธ์ทางกฎหมายและสถาบันระหว่างรัฐกับกลุ่มต่างๆ ได้อีกด้วย 17
ภายหลังจากการที่พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ได้ลงจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีใน พ.ศ.
2531 ดุลอำนาจของความสัมพันธ์ระหว่างข้าราชการการเมืองและข้าราชประจำเริ่มมีการ
เปลี่ยนแปลงไปอีกครั้งในทิศทางที่นักการเมือง กลุ่มนักธุรกิจ ตลอดจนกลุ่มผลประโยชน์ต่างๆ
ในสังคมเริ่มเข้ามามีบทบาททางการเมืองและดำรงตำแหน่งสำคัญในรัฐบาล รวมทั้งยังเข้ามามี
บทบาทแทรกแซงในการแต่งตั้งข้าราชการประจำเพื่อตอบสนองผลประโยชน์ของข้าราชการ
การเมืองและกลุ่มผลประโยชน์ที่ให้การสนับสนุนพรรคการเมืองที่เป็นรัฐบาล อย่างไรก็ตามในช่วง
ระยะเวลาดังกล่าวข้าราชการประจำยังคงมีบทบาทสำคัญในการบริหารราชการแผ่นดินอันเนื่องมา
จากการที่รัฐบาลขาดเสถียรภาพทางการเมือง จึงทำให้ข้าราชการประจำยังเป็นกลไกที่สำคัญ
ในการขับเคลื่อนการบริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาลแต่ก็ต้องยอมรับว่าในช่วงรัฐบาล
พลเอก ชาติชาย ชุณหะวัณ เป็นนายกรัฐมนตรีนั้น พลังของฝ่ายการเมืองได้เพิ่มความเข้มแข็ง
มากขึ้นกว่าในอดีต ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะตัว พลเอก ชาติชาย เองก็เป็นนายกรัฐมนตรีที่มาจาก
การเลือกตั้ง
จากสภาพปัญหาที่เกิดขึ้นของความสัมพันธ์ระหว่างข้าราชการการเมืองและข้าราชการ
ประจำที่เริ่มทำให้เห็นความไม่ลงรอยกันระหว่างทั้ง 2 ฝ่ายในขณะนั้น ส่งผลให้ภาคส่วนต่างๆ
18
ทั้งภาคประชาสังคม ภาคเอกชน นักวิชาการและนักการเมืองบางส่วนมีความพยายามที่จะ
สนับสนุนให้เกิดการปฏิรูประบบราชการไทย โดยได้มีการประกาศใช้พระราชบัญญัติระเบียบ
บริหารราชการพลเรือน พ.ศ. 2535 ที่มุ่งให้กระบวนการแต่งตั้งและโยกย้ายข้าราชการประจำ
ที่เกิดขึ้นมีความ “กระจ่าง” และเป็นไปอย่าง “โปร่งใส” ขณะเดียวกันการเรียกร้องที่เกิดขึ้น
19
ยังมุ่งสนับสนุนให้เกิดการปฏิรูปการเมืองที่เป็นไปตามวิถีทางแห่งการปกครองในระบอบ
ประชาธิปไตยอย่างแท้จริง ซึ่งความพยายามดังกล่าวปรากฏให้เห็นเด่นชัดภายหลังเหตุการณ์
17 เอนก เหล่าธรรมทัศน์, มองเศรษฐกิจการเมืองไทยผ่านการเคลื่อนไหวของสมาคมธุรกิจ, เรียบเรียงเป็นไทย
โดย สายทิพย์ สุคติพันธ์ (กรุงเทพ: คบไฟ, 2539), หน้า 202-204
18 ต้องยอมรับว่าการรัฐประหารที่เกิดขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2534 มูลเหตุหนึ่งที่สำคัญ ก็คือ ความไม่ลงรอยกัน
ระหว่างฝ่ายการเมืองและกองทัพ ซึ่งถือเป็นข้าราชการประจำ จนนำไปสู่การทำรัฐประหารในที่สุด
19 กองนิติการ สำนักงาน ก.พ., ประมวลกฎหมายระเบียบข้าราชการพลเรือน พุทธศักราช 2471-2551 การประชุมกลุ่มย่อยที่ 3
(กรุงเทพ: บริษัท ธนาเพรส จำกัด, 2551), หน้า 558