Page 309 - kpi17073
P. 309

308     การประชุมวิชาการ
                   สถาบันพระปกเกล้า ครั้งที่ 16


                  พัฒนาการของความสัมพันธ์ระหว่างข้าราชการการเมืองและ

                  ข้าราชการประจำของประเทศไทย



                       หากทบทวนถึงความสัมพันธ์ระหว่างข้าราชการการเมืองและข้าราชการประจำของประเทศ
                  ไทยนั้น จะเห็นได้ว่าความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นมีความเกี่ยวข้องกันเรื่อยมาเปรียบเสมือนคนละด้าน
                  ของเหรียญอันเดียวกันอย่างเห็นได้ชัดซึ่งความสัมพันธ์ระหว่างข้าราชการการเมืองและข้าราชการ

                  ประจำของประเทศไทยนั้นปรากฏครั้งแรกในรูปของ “เสนาบดี” ซึ่งเป็นข้าราชการการเมืองในรัฐ
                  สมบูรณาญาสิทธิราชและ “ปลัดทูลฉลอง” ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาสูงสุดของข้าราชการประจำ        14

                  โดยการบริหารงานบุคคลของความสัมพันธ์ระหว่างข้าราชการทั้งสองส่วนได้พัฒนาการเรื่อยมา
                  จนถึงการเปลี่ยนแปลงการปกครองมาเป็นระบอบประชาธิปไตยที่กษัตริย์อยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญใน
                  พ.ศ. 2475 ส่งผลให้มีการปรับปรุงทั้งโครงสร้างระบบการเมือง และการบริหารราชการแผ่นดิน

                  เพื่อให้สอดรับกับกรอบแนวคิดของความเป็นประชาธิปไตยดังกล่าว    15

                       ในช่วงภายหลังการเปลี่ยนแปลงการปกครองนั้น แม้ว่าโครงสร้างระบบการบริหารราชการ

                  แผ่นดินจะดูมีความทันสมัย ดังเห็นได้จากการที่ส่วนราชการต่างๆมีการจัดโครงสร้างการบริหารงาน
                  ตลอดจนการแบ่งอำนาจหน้าที่ของแต่ละส่วนราชการออกจากกันอย่างชัดเจนแต่ทว่าสภาพบริบท

                  ทางการเมืองของไทยกลับมิได้มีลักษณะเป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ ดังที่ Fred W. Riggs
                  ได้ศึกษาและอธิบายว่าการเมืองไทยในช่วงแรกหลังการเปลี่ยนแปลงการปกครองนั้น มีลักษณะ
                  เป็นลักษณะการเมืองแบบ “อำมาตยาธิปไตย (Bureaucratic Polity)” โดย Riggs ได้อธิบาย

                  ว่าการรัฐประหารที่เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่าทำให้พลังภายนอกระบบราชการทั้งพรรคการเมืองและ
                  กลุ่มผลประโยชน์ต่างๆ ไม่สามารถเข้าไปมีบทบาททางการเมืองและมีบทบาทนำในการกำหนด

                  นโยบายสาธารณะ ในทางตรงกันข้ามข้าราชการประจำซึ่งรวมถึงทหาร และตำรวจด้วย กลับกลาย
                  เป็นกลุ่มพลังที่สำคัญในการเข้าไปทำหน้าที่ในการกำหนดนโยบายสาธารณะของประเทศ
                  ซึ่งปรากฏการณ์เช่นนี้ย่อมส่งผลให้นโยบายสาธารณะนั้น สนองตอบต่อกลุ่มข้าราชการประจำเอง

                                             16
                  มากกว่าที่จะเป็นประชาชน  ดังนั้น สภาพการณ์เช่นนี้ จึงทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างฝ่าย
                  การเมืองและฝ่ายข้าราชการประจำในช่วงแรกหลังการเปลี่ยนแปลงการปกครอง มีลักษณะ

                  ที่ข้าราชการประจำมีบทบาทนำ หรืออาจจะเรียกได้ว่าผูกขาดการใช้อำนาจ ไม่ใช่ข้าราชการ
                  การเมือง


                       อย่างไรก็ตาม สภาพบรรยากาศทางการเมืองแบบอำมาตยาธิปไตยเริ่มมีลักษณะที่ผ่อนคลาย
                  ลงในช่วงรัฐบาลของ พล.อ. เปรม ติณสูลานนท์ ทั้งนี้ เอนก เหล่าธรรมทัศน์ ได้เสนอมุมมอง




                        วิษณุ เครืองาม, “ความสัมพันธ์ระหว่างข้าราชการการเมืองและข้าราชการประจำ,” จุลสาร กพบ. 2, ฉ.8
                    14
                    (มีนาคม-เมษายน  2551): หน้า 2
        การประชุมกลุ่มย่อยที่ 3     (PhD diss, University of Wisconsin, 1973), p. 60-88
                        Tawat Wichadit, “Provincial Administration in Thailand: Its Development and Present Problems,”
                    15

                        Fred W. Riggs, Thailand: The Modernization of a Bureaucratic Polity (Honolulu: East-West Center
                    16

                  Press, 1966), pp.311-366
   304   305   306   307   308   309   310   311   312   313   314