Page 265 - kpi17073
P. 265
264 การประชุมวิชาการ
สถาบันพระปกเกล้า ครั้งที่ 16
ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2540 แต่ต่างกันในบางประเด็น กล่าวคือ
รัฐธรรมนูญฯ พ.ศ. 2550 กำหนดให้การออกเสียงประชามติสามารถกระทำได้โดยองค์กรที่ริเริ่ม
คือฝ่ายบริหาร (นายกรัฐมนตรี โดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรี และอาจปรึกษาประธาน
สภาผู้แทนราษฎรและประธานวุฒิสภา) ในกรณีที่คณะรัฐมนตรีเห็นว่ากิจการในเรื่องหนึ่งๆ อาจ
กระทบต่อประโยชน์ได้เสียของประเทศชาติ หรือประชาชนส่วนข้อจำกัดในการลงประชามตินั้น
กำหนดไว้ในลักษณะเดียวกับรัฐธรรมนูญฯ พ.ศ. 2540 ทั้งนี้ รัฐธรรมนูญฯ พ.ศ. 2550 กำหนด
สิ่งที่แตกต่างออกไปคือ การจัดให้มีการลงประชามติดังกล่าว จะเป็นการกำหนดให้เป็นการลง
ประชามติเพื่อหาข้อยุติ นั่นคือ ให้การลงประชามติมีผลผูกพัน หรือจะเป็นการจัดให้มีการออกเสียง
เพื่อให้คำปรึกษาแก่คณะรัฐมนตรี ก็ได้ 30
อย่างไรก็ตาม การกำหนดให้ฝ่ายบริหารเป็นองค์กรเดียวที่มีอำนาจริเริ่มการลงประชามติ
ก็ถูกตั้งข้อสังเกตว่า ประเทศไทยปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตยแบบรัฐสภาซึ่งกำหนดให้ฝ่าย
นิติบัญญัติเป็นผู้เลือกฝ่ายบริหาร นั่นหมายความว่า ฝ่ายบริหารต้องมีเสียงข้างมากในสภาผู้แทน
ราษฎรอยู่แล้ว ดังนั้น ถ้าหากการดำเนินการใดของฝ่ายบริหารที่ตกเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์เป็นอย่าง
มากและมีแนวโน้มสูงว่าประชาชนจะไม่เห็นด้วย ฝ่ายบริหารก็อาจเลือกที่จะนำประเด็นดังกล่าว
เข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรซึ่งตนถือเสียงข้างมากอยู่ มากกว่าที่จะนำไปให้ประชาชน
31
ตัดสินใจ ซึ่งก็อาจได้ผลลัพธ์เป็นสิ่งที่ไม่ตรงกับเจตนารมณ์ของประชาชนอยู่นั่นเอง
3. การลงประชามติที่ริเริ่มโดยเสียงข้างน้อยในรัฐสภา
ในต่างประเทศ
จากการศึกษากรณีศึกษาต่างประเทศ พบว่า ประเทศที่รัฐธรรมนูญกำหนดให้เสียงส่วนน้อย
ในรัฐสภาสามารถขอให้มีการนำประเด็นใดประเด็นหนึ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเด็นที่เกี่ยวกับ
กฎหมายไปขอประชามตินั้น จะกำหนดข้อจำกัดไว้เพื่อเป็นการสร้างสมดุลระหว่างการป้องกัน
ไม่ให้เสียงข้างมากในสภาออกกฎหมายตามอำเภอใจ กับการป้องกันไม่ให้เสียงข้างน้อยในสภาใช้
มาตรการนี้จนทำให้การออกกฎหมายบางเรื่อง หรือการบริหารราชการแผ่นดินต้องล่าช้าเกิน
สมควร ทั้งนี้ ประเทศที่มีการกำหนดกติกาดังกล่าว ได้แก่ ประเทศเดนมาร์ก ประเทศอัลเบเนีย
ประเทศฮอนดูรัส ประเทศมอนเตรเนโกร ประเทศลักเซมเบิร์ก ซึ่งเป็นประเทศที่มีรูปแบบรัฐสภา
เป็นแบบสภาเดี่ยว ประเทศออสเตรีย ประเทศฝรั่งเศส ประเทศสเปน ประเทศอิตาลี ซึ่งเป็น
ประเทศที่มีรูปแบบรัฐสภาเป็นแบบสภาคู่ การกล่าวถึงกรณีศึกษาต่างประเทศต่อไปนี้ จะแบ่งกลุ่ม
ประเทศโดยใช้รูปแบบรัฐสภาเป็นเกณฑ์ เนื่องจากรูปแบบรัฐสภาจะมีผลต่อการกำหนดข้อจำกัด
ของการลงประชามติในกรณีดังกล่าว ดังนี้
การประชุมกลุ่มย่อยที่ 2 30 รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 มาตรา 165
Thosaphon Chieocharnpraphan and Thipsarin Phaktanakul. Empowering Direct Democracy through
31
a Referendum to Counter-Balance the Majority in the House of Representatives of Thailand. Retrieved
September 1, 2014, from http://www.thaiworld.org/enn/thailand_monitor/answera.php?question_id=1332.