Page 264 - kpi17073
P. 264

การประชุมวิชาการ
                                                                                         สถาบันพระปกเกล้า ครั้งที่ 16   263


                            นอกจากนี้ สมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญอีกหลายท่าน อย่างเช่น หม่อมราชวงศ์เสนีย์ ปราโมช
                      ก็ได้ทักท้วงในเรื่องการลงประชามติ โดยเทียบกับกรณีการลงประชามติในประเทศสวิสเซอร์แลนด์

                      โดยให้เหตุผลว่า ด้วยเทคโนโลยีของประเทศสวิสเซอร์แลนด์ ทำให้ประชาชนเข้าถึงข้อมูลข่าวสาร
                      ได้ดีกว่าประเทศไทย (ในขณะนั้น) ซึ่งการเข้าถึงข้อมูลข่าวสารนี้ นับเป็นปัจจัยที่สำคัญมากกับ
                      การตัดสินใจของประชาชน    28


                            จากการพิจารณาประเด็นเรื่องการลงประชามติของสภาร่างรัฐธรรมนูญดังกล่าว มีข้อสังเกต

                      ที่สำคัญ สองประการ คือ ประการแรก การเล็งเห็นว่าเสียงข้างมากในรัฐสภาซึ่งเป็นผู้แทนของ
                      ประชาชนอาจออกกฎหมายที่ขัดต่อเจตนารมณ์ของประชาชนอันอาจนำไปสู่การลิดรอนสิทธิ
                      เสรีภาพของประชาชนได้นั้น ไม่ได้เพิ่งเกิดขึ้นในประเทศไทยในช่วงที่มีการผ่านร่างพระราชบัญญัติ

                      นิรโทษกรรมฯในช่วง พ.ศ. 2556 ที่ผ่านมา หากแต่มีการตระหนักถึงตั้งแต่มีการร่างรัฐธรรมนูญฯ
                      ฉบับ พ.ศ. 2492 แล้ว และสภาร่างรัฐธรรมนูญก็เห็นว่า ถ้าหากเกิดกรณีดังกล่าว การคืนอำนาจ

                      ให้ประชาชนตัดสินใจก็น่าจะเป็นทางที่เหมาะสมที่สุด และประการที่สอง แนวความคิดในเรื่อง
                      การให้ประชาชนสามารถริเริ่มการลงประชามติได้เองนั้นก็ได้เกิดขึ้นแล้วในการประชุมของสภา
                      ร่างรัฐธรรมนูญนี้เช่นกัน หากแต่ด้วยข้อจำกัดของในช่วงเวลานั้น อันได้แก่ ความสามารถในการ

                      เข้าถึงข้อมูลข่าวสารของประชาชน แนวความคิดที่จะให้ประชาชนสามารถริเริ่มการลงประชามติ
                      ได้เองจึงยังไม่ปรากฏเป็นรูปธรรมในประเทศไทยในช่วงเวลาดังกล่าวนี้


                          การล ประ า    า รั  รร น      รา  า า ักร    พ    ักรา        ละ

                      รั  รร น      รา  า า ักร    พ    ักรา

                            รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2540 และรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักร
                      ไทย พุทธศักราช 2550 บัญญัติเรื่องการลงประชามติไว้ค่อนข้างใกล้เคียงกัน ทั้งนี้ การกำหนด

                      เรื่องประชามติในรัฐธรรมนูญทั้งสองฉบับไม่ใช่การกำหนดประชามติในเรื่องการนิติบัญญัติ
                      หากแต่เป็นประชามติที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินงานของฝ่ายบริหาร โดยรัฐธรรมนูญฯ พ.ศ. 2540
                      กำหนดให้องค์กรที่สามารถริเริ่มให้มีการลงประชามติได้คือฝ่ายบริหาร (นายกรัฐมนตรี

                      โดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรี) และจะต้องปรึกษาประธานสภาผู้แทนราษฎรและประธาน
                      วุฒิสภา ในกรณีที่คณะรัฐมนตรีเห็นว่ากิจการเรื่องใดเรื่องหนึ่งอาจกระทบต่อประโยชน์ได้เสีย

                      ของประเทศ หรือประชาชน โดยการลงประชามตินี้เป็นเพียงการ “ขอปรึกษาประชาชน” เท่านั้น
                      นั่นหมายความว่า ผลการลงประชามติไม่ได้ผูกพันการตัดสินใจของฝ่ายบริหาร ทั้งนี้ รัฐธรรมนูญ
                      ฉบับดังกล่าวได้วางข้อจำกัดในการลงประชามติไว้สองประการ คือ หนึ่ง การลงประชามติจะต้อง

                      ไม่เป็นเรื่องที่ขัดหรือแย้งกับรัฐธรรมนูญ และสอง จะลงประชามติเกี่ยวกับตัวบุคคลใดบุคคลหนึ่ง
                      หรือคณะบุคคลใดบุคคลหนึ่งโดยเฉพาะไม่ได้   29


                            ต่อมา เมื่อมีการร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 ก็ได้มีการ
                      กำหนดเรื่องการลงประชามติไว้เช่นกัน หากแต่กำหนดในลักษณะที่ใกล้เคียงกับการลงประชามติ




                         28   รายงานการประชุมสภาร่างรัฐธรรมนูญครั้งที่ 35 วันพุธที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2491                 การประชุมกลุ่มย่อยที่ 2
                         29   รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2540 มาตรา 214
   259   260   261   262   263   264   265   266   267   268   269