Page 259 - kpi17073
P. 259

258     การประชุมวิชาการ
                   สถาบันพระปกเกล้า ครั้งที่ 16


                                                7
                  หนึ่งในห้า (100 คน) เข้าชื่อกัน  และในกรณีที่เกิดการไม่เห็นชอบด้วยกับร่างกฎหมายที่เสียง
                  ส่วนใหญ่ของรัฐสภาได้ให้ความเห็นชอบแล้ว ก็สามารถร้องขอต่อประธานรัฐสภาให้ส่ง

                  ร่างกฎหมายดังกล่าวให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยความชอบด้วยรัฐธรรมนูญได้ โดยผู้ร้องขอจะต้อง
                  เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรหรือสมาชิกวุฒิสภาไม่น้อยกว่าหนึ่งในสิบของจำนวนสมาชิกทั้งหมด
                                                       8
                  ที่มีอยู่ของรัฐสภา (65 คน) เข้าชื่อกัน  แต่การวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญก็จะมีข้อจำกัดอยู่
                  เพียงว่าร่างกฎหมายนั้นต้อง “ไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ” ในทางเนื้อหา หรือกระบวนการ เท่านั้น
                  ถ้าหากร่างกฎหมายนั้นชอบด้วยรัฐธรรมนูญทั้งเนื้อหาและกระบวนการ แต่ไม่ตรงตามเจตนารมณ์

                  ของประชาชน เช่นนี้ ศาลรัฐธรรมนูญก็ไม่อาจวินิจฉัยให้ร่างกฎหมายนั้นตกไปได้

                       ยิ่งกว่านั้น รัฐธรรมนูญฉบับดังกล่าวยังกำหนดให้ฝ่ายบริหารซึ่งมีที่มาจากเสียงข้างมาก

                  ในรัฐสภา (นายกรัฐมนตรีโดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรี) เท่านั้น เป็นองค์กรที่มีอำนาจ
                                                   9
                  ริเริ่มการจัดให้มีการลงประชามติได้  เท่ากับว่า ถ้าหากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเสียงส่วนใหญ่
                  ผ่านร่างกฎหมายที่ขัดต่อเจตนารมณ์ของประชาชนแล้ว ก็แทบไม่มีช่องทางใดตามรัฐธรรมนูญ
                  ฉบับดังกล่าวที่จะเปิดโอกาสให้เสียงส่วนน้อยในสภา หรือประชาชนได้แสดงออกเลย เว้นแต่
                  ประชาชนจะร่วมกันชุมนุมโดยอาจมีพรรคฝ่ายค้านเป็นแกนนำการชุมนุมอย่างที่ผ่านมา ปัญหา

                  สำคัญที่ต้องพิจารณาในกรณีนี้ ก็คือ ทำอย่างไร จึงจะสามารถขจัดความขัดแย้งดังกล่าวในรัฐสภา
                  และทำให้ประชาชนได้แสดงออกซึ่งเจตนารมณ์โดยไม่ต้องใช้ “การเมืองนอกรัฐสภา” ?


                       บทความนี้จึงมุ่งศึกษาเรื่องการลงประชามติซึ่งให้เสียงส่วนน้อยในสภาเป็นผู้ขอให้มีการ
                  ลงประชามติ เนื่องจากถ้าหากเสียงส่วนใหญ่ในสภาและเสียงส่วนน้อยในสภาเกิดความขัดแย้งกัน

                  แล้ว การคืนอำนาจให้ประชาชนตัดสินใจเพราะต่างฝ่ายต่างก็เป็นเพียง “ตัวแทน” ก็ดูจะเป็น
                  ทางออกที่น่าพิจารณาอีกทางหนึ่ง โดยบทความนี้จะเริ่มจากการกล่าวถึงแนวความคิดที่เกี่ยวข้อง

                  กับการคืนอำนาจตัดสินใจให้ประชาชนด้วยการลงประชามติ (1) จากนั้น จะขอกล่าวถึงการ
                  กำหนดเรื่องการลงประชามติที่เคยปรากฏในรัฐธรรมนูญไทย (2) โดยมุ่งเน้นที่รัฐธรรมนูญแห่ง
                  ราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2492, 2540 และ 2550 ซึ่งเป็นรัฐธรรมนูญที่ร่างโดยสภาร่าง

                  รัฐธรรมนูญ จึงมีการบันทึกการประชุมจัดเก็บไว้ และชี้ให้เห็นถึงการให้เสียงส่วนน้อยในรัฐสภา
                  ขอให้มีการลงประชามติในต่างประเทศ (3) เพื่อเป็นการชี้ให้เห็นรูปแบบและตัวอย่างในการ

                  กำหนดกติกาในกรณีดังกล่าวจนนำมาสู่บทสรุปและข้อเสนอในตอนท้าย


                  1. แนวความคิดที่เกี่ยวข้อง :

                  ประชาธิปไตยแบบมีตัวแทน กับความเป็นผู้แทนของประชาชน



                       ปัจจุบัน การปกครองในระบอบประชาธิปไตยที่ปรากฏในประเทศต่างๆจะเป็นประชาธิปไตย

                  แบบมีตัวแทน เนื่องจากสภาพแวดล้อมในปัจจุบันที่ประชากรมีจำนวนมากขึ้น ทำให้การปกครอง
        การประชุมกลุ่มย่อยที่ 2      7 8 9   รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 มาตรา 158




                        รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 มาตรา 154
                        รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 มาตรา 165
   254   255   256   257   258   259   260   261   262   263   264