Page 260 - kpi17073
P. 260

การประชุมวิชาการ
                                                                                         สถาบันพระปกเกล้า ครั้งที่ 16   259


                                                                                                         10
                      แบบประชาธิปไตยโดยตรงอย่างที่เคยปรากฏในสมัยกรีกนั้นแทบจะเป็นไปไม่ได้แล้ว  ทั้งนี้
                      แนวความคิดของความเป็นตัวแทนประชาชนนั้นได้รับการตีความออกเป็นสองแนวความคิด


                            แนวความคิดแรก เชื่อว่าเมื่อประชาชนได้เลือกผู้แทนแล้ว ให้ถือว่าผู้แทนเป็นอิสระจาก
                      ประชาชนที่เลือกตนมา แนวความคิดนี้เคยปรากฏในงานเขียนของ Edmund Burke (1729-

                      1797) ซึ่งกล่าวว่า “เมื่อ [ชาวบริสทอล (Bristol)] เลือกผู้แทน ก็ไม่อาจถือได้ว่าผู้แทนนั้นเป็น
                      สมาชิกของบริสทอล หากแต่เป็นสมาชิกของรัฐสภา...และถ้าหากผู้แทนนั้นตัดสินตามความเห็น

                      ของประชาชนที่เลือกมา [แต่เพียงอย่างเดียว] นั่นถือว่าเป็นการทรยศมากกว่าการรับใช้ประชาชน
                      [ที่เลือกตนมา]”  เช่นเดียวกับ เจมส์ เมดิสัน (James Madison (1751-1836)) ใน Federalist
                                     11
                      paper ฉบับที่ 10 ซึ่งแสดงให้เห็นว่า ผู้แทนประชาชนจะผูกพันอยู่เฉพาะประชาชนที่เลือกตนมา

                      ไม่ได้ แต่จะต้องชั่งน้ำหนักและคำนึงถึงผลประโยชน์ของประเทศโดยรวมเป็นสำคัญ  และผู้ที่
                                                                                                      12
                      กล่าวถึงเรื่องนี้อย่างชัดเจนที่สุดคือ ซีเอเยส์ (Emmanuel Joseph Siéyès (1748-1836)) ซึ่งได้

                      กล่าวถึงแนวความคิดดังกล่าวในหนังสือเรื่อง “อะไรคือสภาสามัญชน ?” (Qu’est-ce que
                      le tiers état ?) ว่า เจตนารมณ์ของ “ชาติ” (ซึ่งก็คือ พลเมืองทุกคนรวมกัน) เป็นสิ่งสูงสุด
                      และเจตนารมณ์ของชาติ จะแสดงออกได้โดยผ่านผู้แทนของชาติซึ่งได้รับเลือกจากประชาชน และ

                      เมื่อได้รับเลือกแล้ว ผู้แทนเหล่านั้น ไม่ใช่ผู้แทนของราษฎร แต่เป็นผู้แทนของชาติอันมีอิสระ
                      ไม่ต้องผูกมัดอยู่กับประชาชนผู้เลือกตนมา ผู้แทนของชาติสามารถดำเนินการใดๆ ที่เห็นว่า

                      เป็นไปเพื่อประโยชน์ของชาติได้อย่างเต็มที่  13 14

                            ทั้งนี้ แนวความคิดดังกล่าวไม่ได้หมายความว่าเมื่อเลือกผู้แทนแล้ว ผู้แทนเป็นอิสระกระทำ

                      การใดๆ ได้ตามอำเภอใจ หากแต่ถือว่าผู้แทนมีหน้าที่ต้องทำเพื่อ “ประโยชน์ของประเทศชาติ”
                      ตามที่ผู้แทนเห็นว่าเหมาะสม ไม่ใช่ทำเพื่อประโยชน์ของประชาชนเฉพาะกลุ่มที่เลือกตนมา

                      อาจกล่าวได้ว่า แนวความคิดนี้ไม่เห็นด้วยกับการให้ผู้แทนประชาชนกลับไปถามประชาชนว่า
                      ในประเด็นที่เป็นปัญหาอยู่นั้น ควรจะตัดสินไปในทางใด หากแต่เป็นเรื่องที่ผู้แทนประชาชนควรจะ
                      ต้องชั่งน้ำหนักตัดสินใจเอง แม้ว่าผู้แทนเสียงส่วนน้อยและเสียงส่วนใหญ่ในสภาจะไม่เห็นพ้อง

                      ต้องกันก็ตาม






                         10   วิษณุ เครืองาม. (2530). กฎหมายรัฐธรรมนูญ. กรุงเทพมหานคร : นิติบรรณาการ. หน้า 249
                         11   Geoffrey de Q Walker. (1987). Initiative and Referendum : The people’s Law. Sydney : The
                      Centre for independent studies, p. 31.
                         12   โปรดดู Hamilton, Madison and Jay. (2003). The Federalist with Letters of Brutus. United
                      Kingdom : Cambridge University Press, p. 40-46.
                         13   บวรศักดิ์ อุวรรณโณ. (2552). กฎหมายมหาชนเล่ม 1 : วิวัฒนาการทางปรัชญา และลักษณะของกฎหมาย
                      มหาชนยุคต่างๆ. กรุงเทพมหานคร : สำนักพิมพ์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย หน้า 58
                         14   อย่างไรก็ตาม ซีเอเยส์ก็ไม่ได้หมายความว่าผู้แทนของชาติจะดำเนินการใดๆก็ได้ตามอำเภอใจ หากแต่การที่
                      พลเมืองทุกคนมารวมกันเป็นชาติ และมอบอำนาจให้แก่ผู้แทนของชาตินั้น ไม่ได้หมายความว่ามอบอำนาจทั้งหมดให้
                      ผู้แทน หากแต่เป็นเพียงอำนาจที่เป็นไปเพื่อให้เกิดการรักษาความสงบเรียบร้อยเท่านั้น และผู้แทนของชาติก็ไม่  การประชุมกลุ่มย่อยที่ 2
                      สามารถเปลี่ยนแปลงกรอบการให้อำนาจนี้ได้ โปรดดู Emmanuel Joseph Siéyès. (2002). Qu’est-ce que le
                      tiers état?. Paris : Edition du Boucher,p. 51-52.
   255   256   257   258   259   260   261   262   263   264   265