Page 159 - kpi17073

158 การประชุมวิชาการ
สถาบันพระปกเกล้า ครั้งที่ 16

กระทำผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ในการยุติธรรม ส่อว่าจงใจใช้อำนาจหน้าที่ขัดต่อบทบัญญัติ
รัฐธรรมนูญหรือกฎหมาย” ส่วนคณะกรรมการ ป.ป.ช. ด้วยข้อกล่าวหาว่า “กระทำการขาดความ

เที่ยงธรรม จงใจฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญหรือกฎหมาย หรือมีพฤติการณ์ที่เป็นการเสื่อมเสียแก่เกียรติ
ศักดิ์ของการดำรงตำแหน่งอย่างร้ายแรง”

ทั้งนี้ มติของวุฒิสภาให้ถอดถอน ก.ก.ต.ต้องได้รับคะแนนเสียงไม่น้อยกว่า 3 ใน 5 ของ
จำนวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของวุฒิสภา ส่วนมติให้ถอดถอนกรรมการ ป.ป.ช.ต้องได้รับ

คะแนนเสียงไม่น้อยกว่า 3 ใน 4 ของจำนวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของวุฒิสภา

(3) การถูกตรวจสอบด้วยกระบวนการยุติธรรมทางอาญา ดังนี้

(3.1) ก.ก.ต.

ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการ

ทุจริต กำหนดให้ ก.ก.ต.อยู่ในนิยามความหมายคำว่า “ผู้บริหารระดับสูง” ซึ่งตาม
หมวด 8 การตรวจสอบเจ้าหน้าที่ของรัฐซึ่งมิใช่ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองตาม
มาตรา 275 ของรัฐธรรมนูญ กำหนดให้มีการกล่าวหา ก.ก.ต.ว่า ”กระทำความ

ผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่ กระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ หรือกระทำ
ความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ในการยุติธรรม” ซึ่งคณะกรรมการ ป.ป.ช.มีอำนาจ

หน้าที่ไต่สวนและสรุปสำนวนเสนอต่อศาลที่มีเขตอำนาจพิจารณาพิพากษาต่อไป

พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง กำหนดให้

กรรมการการเลือกตั้ง กรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัด ผู้อำนวยการการเลือกตั้ง
ประจำจังหวัด และอนุกรรมการเป็น “เจ้าพนักงานตามประมวลกฎหมายอาญา” มี
อำนาจตามที่กฎหมายกำหนด ในขณะเดียวกันต้องมีหน้าที่และความรับผิดมาก

กว่าบุคคลทั่วไป ตามข้อกำหนดในประมวลกฎหมายอาญา ในหมวดที่ว่าด้วยความ
ผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ เป็นการเฉพาะ

ในทางปฏิบัติ พบว่ามีการตรวจสอบและลงโทษ ก.ก.ต. ด้วยมาตรา 157 ประมวล

กฎหมายอาญา เนื่องจากเป็นเจ้าพนักงานร่วมกันปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ โดยศาล
พิพากษาจำคุกคนละ 2 ปี แต่ให้รอลงอาญามีกำหนด 2 ปี เนื่องจากการออก
ระเบียบจ่ายเงินเพิ่มพิเศษในลักษณะเหมาจ่ายเป็นรายเดือนให้กับกรรมการ

การเลือกตั้งโดยไม่มีอำนาจ

ยิ่งกว่านั้น เจตนารมณ์และหลักประกันความเป็นอิสระและเป็นกลางในการใช้

อำนาจหน้าที่ของ ก.ก.ต. และเพื่อให้มีการตรวจสอบในเรื่องดังกล่าว จึงมีกฎหมาย
การประชุมกลุ่มย่อยที่ 1 กำหนดฐานความผิดเฉพาะ ซึ่งเป็นบทกำหนดเพิ่มเติมจากฐานความผิดต่อ

ตำแหน่งหน้าที่ราชการตามประมวลกฎหมายอาญา ทั้งนี้เพื่อดำรงรักษาความเป็น
อิสระและเป็นกลาง และไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใดในการจัดการเลือกตั้งและการออกเสียง