Page 158 - kpi17073
P. 158

การประชุมวิชาการ
                                                                                         สถาบันพระปกเกล้า ครั้งที่ 16   157


                                ทางอาญา ซึ่งทั่วไปใช้กับประชาชนซึ่งไม่ได้เป็นผู้มีอำนาจรัฐดังเช่นผู้ดำรงตำแหน่ง
                                ทางการเมืองและเจ้าหน้าที่รัฐระดับสูงทั้งหลาย


                              - อำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการ ป.ป.ช.มิใช่อำนาจหน้าที่ในลักษณะเบ็ดเสร็จเด็ดขาด
                                หรือผลการพิจารณาเป็นที่สุด เป็นแต่เพียงอำนาจไต่สวนข้อเท็จจริง รวบรวมพยาน

                                หลักฐานและจัดทำรายงานสรุปความเห็นเสนอต่อองค์กรที่มีอำนาจวินิจฉัยชี้ขาดต่อไป
                                ซึ่งกรณีเป็นการตรวจสอบด้วยกระบวนการยุติธรรม องค์กรศาลซึ่งเป็นองค์กรฝ่าย

                                ตุลาการจะมีอำนาจในการชี้ขาดสุดท้าย แต่หากเป็นการตรวจสอบทางการเมืองวุฒิสภา
                                เป็นองค์กรชี้ขาดสุดท้ายว่าจะให้ถอดถอนออกจากตำแหน่งหรือไม่


                            ทั้งนี้ การใช้อำนาจตรวจสอบดังกล่าวของคณะกรรมการ ป.ป.ช.นั้น ต้องมีการริเริ่ม
                      เสนอโดยกลุ่มบุคคลตามที่รัฐธรรมนูญและกฎหมายกำหนด เช่น สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร

                      สมาชิกวุฒิสภา ประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง หรือผู้เสียหาย ซึ่งแสดงให้เห็นว่าคณะกรรมการ
                      ป.ป.ช.เป็นองค์กรตรวจสอบในช่วงกลางของกระบวนการตรวจสอบการใช้อำนาจรัฐ เพราะอำนาจ
                      หน้าที่ในการริเริ่มเสนอเรื่อง  และการวินิจฉัยชี้ขาดนั้นเป็นอำนาจหน้าที่ขององค์กรอื่นๆ นับเป็น

                      กระบวนการที่ออกแบบให้มีการตรวจสอบและถ่วงดุลกันในระดับหนึ่งแล้ว


                              - รายงานการไต่สวนและสรุปความเห็นของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ยังมีขั้นตอนการ
                                ตรวจสอบและถ่วงดุลหรือคานอำนาจดุลพินิจโดยอัยการสูงสุด และหรือคณะทำงานร่วม
                                ระหว่างผู้แทนจากคณะกรรมการ ป.ป.ช.และอัยการสูงสุด



                      4.  การตรวจสอบการใช้อำนาจของ ก.ก.ต.

                        และคณะกรรมการ ป.ป.ช.



                            ภายใต้ระบบการตรวจสอบการใช้อำนาจโดยรวม ซึ่งด้านหนึ่งกำหนดอำนาจหน้าที่ให้
                      ก.ก.ต. และคณะกรรมการ ป.ป.ช. มีอำนาจหน้าที่ตรวจสอบการใช้อำนาจรัฐดังนำเสนอมาแล้ว

                      ข้างต้น แต่อีกด้านหนึ่งถือว่าทั้งสององค์กรเป็นองค์กรที่ใช้อำนาจรัฐด้วยเช่นกัน ดังนั้น
                      รัฐธรรมนูญและกฎหมายกำหนดให้ต้องอยู่ภายใต้การตรวจสอบ ดังนี้


                            (1) การยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบของตน คู่สมรส และบุตรที่ยัง
                      ไม่บรรลุนิติภาวะ รวมถึงทรัพย์สินที่มอบหมายให้อยู่ในความครอบครองหรือดูแลของบุคคลอื่น

                      ไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อม อย่างไรก็ตาม เพื่อความโปร่งใสและเป็นมาตรฐานเดียวกันกับ
                      ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ควรกำหนดให้มีการเปิดเผยบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินของ ก.ก.ต.

                      และ ป.ป.ช.ต่อสาธารณะเช่นเดียวกันด้วย

                            (2) การถูกตรวจสอบและถอดถอนออกจากตำแหน่งเช่นเดียวกับผู้ดำรงตำแหน่งทาง

                      การเมืองหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐระดับสูงอื่นๆ ทั้งนี้ ด้วยข้อกล่าวหาสำหรับ ก.ก.ต. คือ “มีพฤติการณ์
                      ร่ำรวยผิดปกติ ส่อไปในทางทุจริตต่อหน้าที่ ส่อว่ากระทำผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ ส่อว่า              การประชุมกลุ่มย่อยที่ 1
   153   154   155   156   157   158   159   160   161   162   163