Page 150 - kpi17073
P. 150

การประชุมวิชาการ
                                                                                         สถาบันพระปกเกล้า ครั้งที่ 16   149


                      คือการตรวจสอบและดำเนินคดีอาญากับผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองและผู้บริหารระดับสูง ซึ่ง
                      พัฒนารูปแบบและกระบวนการไปสู่การทุจริตเชิงนโยบาย หรือการทับซ้อนระหว่างผลประโยชน์

                      ส่วนตัวกับผลประโยชน์ส่วนรวม (Conflict of Interest) ซึ่งมิได้จำกัดขอบเขตอยู่ภายในประเทศ
                      เท่านั้น


                            กล่าวโดยสรุป การกำหนดให้ ก.ก.ต. และคณะกรรมการ ป.ป.ช.เป็นส่วนหนึ่งในโครงสร้าง
                      อำนาจรัฐมีปัญหาเกี่ยวกับดุลยภาพระหว่างองค์กรอิสระดังกล่าวกับองค์กรในโครงสร้างอำนาจรัฐ

                      อื่นๆ รวมถึงประชาชน ปัญหาเกี่ยวกับไม่เชื่อมั่นในความชอบธรรมของการมีและใช้อำนาจของ
                      ก.ก.ต. และหรือ คณะกรรมการ ป.ป.ช. เป็นวิกฤติการณ์ที่กระทบต่อการพัฒนาประชาธิปไตย
                      ดังนั้น ในการปฏิรูปประเทศในระยะต่อไปนี้  ต้องมีการศึกษาวิเคราะห์ทบทวนเพื่อปรับดุลยภาพ

                      ระหว่างองค์กรในโครงสร้างอำนาจรัฐทั้งหลาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนขององค์กรอิสระ
                      มีประเด็นศึกษาวิเคราะห์ดังนี้



                      1.  การสถาปนาองค์กรอิสระไว้ในรัฐธรรมนูญ

                        กับหลักการแบ่งแยกอำนาจอธิปไตย



                            ประเด็นคำถามหลักของการสถาปนาองค์กรอิสระไว้ในรัฐธรรมนูญ มี 2 ส่วน คือ 1. ขัดกับ
                      หลักการแบ่งแยกอำนาจอธิปไตย (Separation of Powers) ออกเป็น 3 ส่วน ซึ่งมีรัฐสภาใช้
                      อำนาจนิติบัญญัติ คณะรัฐมนตรีใช้อำนาจบริหาร และศาลใช้อำนาจตุลาการ? และ 2. การให้

                      คณะกรรมการการเลือกตั้งมีอำนาจทั้งการออกกฎเกณฑ์การปฏิบัติ การบริหารจัดการเลือกตั้ง
                      และการวินิจฉัยชี้ขาด การเลือกตั้งเป็นการมอบอำนาจทั้งนิติบัญญัติ บริหารและตุลาการไว้ที่

                      องค์กรเดียว?


                            หลักการแบ่งแยกอำนาจอธิปไตยของมองเตสกิเออ (Montesquier)แบ่งแยกอำนาจ
                      นิติบัญญัติ บริหาร และตุลาการออกจากกัน เพื่อเป็นหลักประกันในสิทธิเสรีภาพของประชาชน
                      ให้อำนาจอธิปไตยทั้งสามตรวจสอบและถ่วงดุลซึ่งกันและกัน มิให้อำนาจรวมศูนย์อยู่ที่องค์กรใด

                      องค์กรหนึ่ง แต่ใช้หลักการอำนาจยับยั้งอำนาจ (นิยม รัฐอมฤต และคณะ, 2552) องค์กรผู้ใช้
                      อำนาจอธิปไตยที่ถูกแบ่งแยกออกเป็น 3 ด้านดังกล่าวมีสถานะเป็น “องค์กรอำนาจของผู้ใช้”

                      (Power User) คือผู้ปกครองและผู้ใช้โดยตรง ซึ่งสังคมไทยมีบทเรียนจากอดีตที่เคยใช้
                      รัฐธรรมนูญมาแล้ว 15 ฉบับ จึงเกิดการปฏิรูปการเมืองการปกครอง โดยออกแบบกลไกอำนาจ
                      ขึ้นมาใหม่ในรูปขององค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ โดยมีฐานะเป็น “องค์กรอำนาจของผู้ตรวจสอบ”

                      (Power Sensor)และ “องค์กรอำนาจของผู้กำกับและเรียกร้อง” (Power Monitor) ที่แยกเป็น
                      อิสระออกต่างหากจาก “องค์กรอำนาจของผู้ใช้” (Power User) (เชาวนะ  ไตรมาศ, 2545)

                      ทั้งนี้ แนวคิดการกำหนดให้มีองค์กรอิสระเพื่อเป็นกลไกการตรวจสอบการใช้อำนาจรัฐก็เพื่อ
                      ต้องการรักษาสมดุลของระบบรัฐสภาที่รัฐสภาไม่สามารถควบคุมตรวจสอบรัฐบาลได้ (สุรพล
                      นิติไกรพจน์, 2556) รัฐประชาธิปไตย (Democratic State) มีการแบ่งแยกอำนาจแต่ผู้ชนะ                    การประชุมกลุ่มย่อยที่ 1

                      การเลือกตั้งได้ไปสองอำนาจ ขาดการคานอำนาจกัน จึงมีแนวคิดใหม่ให้มีองค์กรอิสระทำหน้าที่ใน
   145   146   147   148   149   150   151   152   153   154   155