Page 147 - kpi17073
P. 147

146     การประชุมวิชาการ
                   สถาบันพระปกเกล้า ครั้งที่ 16


                  สัมพันธ์ทางอำนาจตามความชำนาญเฉพาะด้าน (Specialization) มีการแบ่งงานกันทำอย่างเป็น
                  อิสระ แต่มีการตรวจสอบและถ่วงดุลซึ่งกันและกันตามกรอบอำนาจหน้าที่


                       การสถาปนาองค์กรอิสระเข้ามาในโครงสร้างอำนาจรัฐของไทยนั้น เป็นส่วนหนึ่งของ
                  กระบวนการพัฒนาประชาธิปไตย ที่พยายามหาแนวทาง กลไก มาตรการในการป้องกันแก้ไข

                  ปัญหาที่เกิดขึ้น โดยการศึกษาสำรวจสภาพสังคมวิทยาการเมืองไทย มีการศึกษาข้อมูลทางวิชา
                  การเป็นฐานในการดำเนินการ และใช้วิธีการแก้ไขเพิ่มเติมหรือกำหนดหลักการไว้ในกฎหมาย

                  สูงสุดคือรัฐธรรมนูญ จึงอาจกล่าวได้ว่าเป็น “แนวความคิดที่จะใช้รัฐธรรมนูญลายลักษณ์อักษร
                  ให้เป็นเครื่องมือในการกำหนดรูปแบบการปกครองและกำหนดกลไกอันเป็นโครงสร้างพื้นฐาน
                  (infra-structure) ในการจัดองค์กรบริหารของรัฐ” หรือ “Constitutionalism” ตามแนวคิด

                  ของท่านอาจารย์อมร  จันทรสมบูรณ์ ซึ่งมีการใช้รูปแบบดังกล่าวในการปฏิรูปทางการเมืองของ
                  หลายประเทศ


                       แนวทางการปฏิรูปทางการเมืองการปกครองของไทย และประเทศในภูมิภาคเอเชียมุ่งเน้นที่
                  การสร้างกลไกหรือมาตรการเพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาหลัก 2 ประการเช่นเดียวกัน ได้แก่ การ

                  เข้าสู่อำนาจทางการเมืองการปกครองและการใช้อำนาจรัฐโดยมิชอบหรือมีการทุจริตต่อหน้าที่และ
                  ทุจริตคอร์รัปชั่น เครื่องมือหลักที่ใช้คือรัฐธรรมนูญและกฎหมายกำหนดให้มีกลไกและมาตรการ

                  ทำให้การเข้าสู่อำนาจรัฐช่องทางหลักคือการเลือกตั้งเป็นไปด้วยความสุจริตเที่ยงธรรม มีการ
                  แข่งขันกันโดยเสรี ภายใต้การจัดการหรือควบคุมดูแลขององค์กรที่มีความเป็นอิสระและเป็นกลาง
                  ในที่นี้คือ คณะกรรมการการเลือกตั้ง และเมื่อได้เข้าไปใช้อำนาจรัฐแล้ว ยังคงต้องมีเครื่องมือ

                  ติดตามตรวจสอบและลงโทษกรณีมีการใช้อำนาจโดยมิชอบ ซึ่งใช้มาตรการทางกฎหมายเป็นหลัก
                  โดยใช้กระบวนการพิจารณาถอดถอนบุคคลดังกล่าวออกจากตำแหน่ง หรือกระบวนการยุติธรรม

                  ทางอาญา หรือมาตรการตรวจสอบทางการเมือง ที่เชื่อมโยงกับการตรวจสอบด้วยกระบวนการ
                  ยติธรรมทางอาญา ทั้งนี้ โดยการเสริมสร้างศักยภาพและความเข้มแข็ง รวมไปถึงหลักประกัน
                  ความเป็นอิสระและเป็นกลางขององค์กรที่มีบทบาทอำนาจหน้าที่ในการไต่สวนข้อเท็จจริง เพื่อ

                  จัดทำรายงานเสนอต่อองค์กรวินิจฉัยชี้ขาดต่อไป นั่นคือ คณะกรรมการป้องกันและปราบปราม
                  การทุจริตนั่นเอง


                       แนวทางการปฏิรูปการเมืองการปกครองดังกล่าว สอดคล้องกับหลักการของประชาธิปไตย
                  สมัยใหม่ที่มุ่งเน้นการกรองตัวแทนเข้าสู่อำนาจในขั้นตอนที่ 1 รวมทั้งขั้นตอนที่ 2 การควบคุม

                  การใช้อำนาจของตัวแทนให้กระทำการเพื่อประโยชน์ของประชาชนหรือส่วนรวม (นิยม รัฐอมฤต
                  และคณะ, 2552)


                       อย่างไรก็ตาม แปดทศวรรษของประชาธิปไตยไทยเรายังคงเผชิญกับวิกฤติการณ์เกี่ยวกับ

                  การเข้าสู่อำนาจรัฐและการตรวจสอบการใช้อำนาจรัฐ ดังนั้น การศึกษาวิเคราะห์ทบทวนแนวทาง
        การประชุมกลุ่มย่อยที่ 1   การปฏิรูปด้วยการจัดให้มีองค์กรอิสระเพื่อรับผิดชอบในเรื่องดังกล่าวจึงเป็นเร่งเร่งด่วนและสำคัญ

                  ยิ่งต่อแนวทางการปฏิรูปประเทศในระยะต่อไปนี้ เนื่องจากประชาธิปไตยที่สมบูรณ์นั้นไม่อาจเกิด

                  ขึ้นได้หากปราศจาก ความสุจริตและชอบธรรมในการมีและใช้อำนาจ ซึ่งหมายความรวมถึงการมี
                  และมีและใช้อำนาจขององค์กรอิสระที่ได้รับมอบหมายให้ใช้อำนาจในการตรวจสอบด้วยเช่นกัน
   142   143   144   145   146   147   148   149   150   151   152