Page 96 - kpi16607
P. 96
ดุลอำนาจ ในการเมืองการปกครองไทย
ดังนั้น การเมืองไทยในอนาคตจะถูกออกแบบเพื่อรองรับต่อบทบาทของ
ทหารให้อยู่ในการเมืองต่อไป ความหวังเฉพาะหน้าของพวกเขาจึงได้แก่ การพา
ประเทศกลับสู่ระบอบ “ประชาธิปไตยครึ่งใบ” หรืออาจจะเรียกว่าเป็น “Hybrid
Politics” ที่อาจจะมีการเลือกตั้งเกิดขึ้นจริง แต่กระบวนการนี้จะอยู่ภายใต้การ
40
กำกับและ/ หรือการควบคุมของทหาร หรืออีกนัยหนึ่งก็คือ กองทัพจะมี
หลักประกันทางกฎหมายที่จะอยู่ในการเมืองต่อไป ขณะเดียวกันพวกเขาก็หวัง
ว่าการจำกัดบทบาทของกลุ่มนิยมทักษิณก็จะประสบความสำเร็จ และกองทัพก็จะ
อยู่ในเวทีการเมืองด้วยแรงสนับสนุนที่เกิดจากการขับเคลื่อนด้วยอุดมการณ์
ต่อต้านการเมืองต่อไป
แต่หากเกิดการเปลี่ยนแปลงที่กระแสประชาธิปไตยหวนพัดคืน ซึ่งผู้เขียน
อยากจะขอเรียกว่าเป็น คลื่นลูกที่ 3.5 ของการเมืองไทย ที่ทำให้ทุกสิ่งทุกอย่าง
“พลิก” ทางการเมืองกลับสู่กระบวนการเลือกตั้งอีกครั้งแล้ว ก็น่าคิดอย่างมากกับ
บทบาทของทหารกับการเมืองไทยในอนาคต รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง
ในอนาคตจะจัดการกับปัญหาระยะเปลี่ยนผ่านแบบ “ประชาธิปไตย 3.5” เช่นที่
กองทัพยังคงมีบทบาทและอำนาจเช่นนี้อย่างไร โจทย์นี้ยิ่งท้าทายต่อขบวน
ประชาธิปไตยไม่เปลี่ยนแปลง !
สรุป: สงครามใหม่ในโลกเก่าของทหาร
แทบไม่น่าเชื่อเลยว่า หลังจากการสิ้นสุดของสงครามเย็นในปี พ.ศ. 2532/
33 ซึ่งเป็นดังจุดเริ่มต้นของความเป็น “โลกาภิวัตน์” นั้น การเมืองไทยต้องเผชิญ
กับการรัฐประหารถึง 3 ครั้ง ได้แก่ กุมภาพันธ์ 2534 กันยายน 2549 และ
พฤษภาคม 2557 ปรากฏการณ์เช่นนี้ดูจะขัดแย้งกับความเชื่อที่ว่า ในโลกาภิวัตน์
ที่มี “กระแสประชาธิปไตย” เป็นทิศทางหลัก จะมีส่วนอย่างมากต่อการเป็น
40 ดูแนวคิดเรื่อง Hybrid Politics ใน Paul W. Zagorski, “Hybrid Regimes,”
Comparative Politics (London: Routledge, 2009), pp. 487-521 ; สุรชาติ บำรุงสุข,
“การเมืองไฮบริด (1) เมื่อประชาธิปไตยไทยไม่เสรี!” มติชนสุดสัปดาห์ 35, 1807 (3- 9
เมษายน 2558): 50-51 ; สุรชาติ บำรุงสุข, “การเมืองไฮบริด (จบ) เมื่อประชาธิปไตยไทย
ไม่เสรี!” 35, 1808 (10-16 เมษายน 2558): 50-51.
สถาบันพระปกเกล้า