Page 86 - kpi16607
P. 86
ดุลอำนาจ ในการเมืองการปกครองไทย
ร่างพระราชบัญญัตินิรโทษกรรม ซึ่งในส่วนของรัฐบาลและฐานการเมืองหลักอย่าง
กลุ่มเสื้อแดงมีความเห็นแตกต่างออกไป พวกเขาไม่เห็นด้วยกับข้อเสนอเช่นนี้
เพราะจะทำให้ผู้สั่งการในคดีการสังหารผู้ร่วมชุมนุมในปี พ.ศ. 2553 ได้รับ
นิรโทษกรรมไปด้วย แต่สำหรับกลุ่มอนุรักษ์นิยมและกลุ่มต่อต้านรัฐบาลแล้ว
ร่างกฎหมายนี้กลายเป็นการเปิด “หน้าต่างแห่งโอกาส” ให้แก่การเคลื่อนไหว
“ต่อต้านทักษิณ” อีกครั้ง ดูเหมือนพวกเขาจะรอคอยโอกาสเช่นนี้อยู่นาน และ
โอกาสกลับมาอยู่ในมือของพวกเขาอย่างมีนัยสำคัญอีกด้วย
ชนชั้นนำและบรรดาผู้นำกลุ่มอนุรักษ์นิยมมีส่วนโดยตรงในการจัดตั้ง
“คณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตย
ที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข” (กปปส.) หรืออาจจะเรียกได้ว่า
เป็นการเคลื่อนไหวใหญ่ครั้งที่ 2 ของขบวนการอนุรักษ์นิยมหลังจากความสำเร็จ
ในการจัดตั้ง “กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย” ในการต่อต้านรัฐบาล
ทักษิณ รัฐบาลสมัคร และรัฐบาลสมชายมาแล้ว ถ้าขบวนการแรกคือกลุ่ม
พันธมิตรเปิดการเคลื่อนไหวด้วยรูปแบบสูงสุดคือ การปิดทำเนียบและการ
ปิดสนามบินแล้ว ขบวนสองคือกลุ่ม กปปส. เคลื่อนไหวรูปแบบสูงสุดด้วยการ
“ปิดกรุงเทพฯ” หรือถูกสร้างเป็นคำขวัญของพวกเขาว่า “Bangkok Shutdown”
พร้อมกับการบุกเข้ายึดศูนย์ราชการ ในสถานการณ์เช่นนี้ รัฐบาลตกอยู่ในสภาพ
34
ที่เป็น “อัมพาต” เพราะหากตัดสินใจใช้กำลังเข้าควบคุมฝูงชนเพื่อยึดศูนย์ราชการ
หรือพื้นที่ที่ถูกปิดคืนจากผู้ชุมนุมแล้ว สถานการณ์ก็อาจจะย้อนรอยการล้อมปราบ
การชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดงในปี พ.ศ. 2553 ที่มีผู้เสียชีวิตเป็นจำนวนมาก และ
ขณะเดียวกันก็ไม่มีหลักประกันว่า ถ้ารัฐบาลสั่งให้กองทัพนำเอากำลังทหาร
เข้าร่วมกับตำรวจในการควบคุมฝูงชนแล้ว ผู้นำกองทัพยินดีที่จะให้ความร่วมมือ
กับรัฐบาลพลเรือนในภารกิจเช่นนี้ กรณีนี้แตกต่างจากการช่วยเหลือรัฐบาลในช่วง
วิกฤตน้ำท่วม เพราะในวิกฤตดังกล่าวหากผู้นำกองทัพตัดสินใจไม่ช่วยรัฐบาลแล้ว
ผลลบจะตกอยู่กับทหารอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ประกอบกับปัญหาน้ำท่วมไม่ใช่
วิกฤตการเมือง และการออกมาช่วยน้ำท่วมก็ยังทำให้กองทัพได้เสียงตอบรับ
34 ดูบทความเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวของ กปปส. ใน กองบรรณาธิการสำนักพิมพ์มติชน,
เสียงนกหวีดปฏิวัติ (กรุงเทพฯ: มติชน, 2557).
สถาบันพระปกเกล้า