Page 82 - kpi16607
P. 82

ดุลอำนาจ   ในการเมืองการปกครองไทย





               พ.ศ. 2549 แม้โลกจะอยู่ในยุคหลังสงครามเย็นและถูกขับเคลื่อนโดย “กระแส

               โลกาภิวัตน์” หรือที่เรียกในบริบทของวิชาการเมืองเปรียบเทียบว่าเป็นยุคของ
               “คลื่นประชาธิปไตยลูกที่ 3” (The Third Wave) แต่การรัฐประหารก็หวนกลับมา
               เกิดขึ้นได้ ทั้งๆ ที่หลายคนอาจจะเคยเชื่อว่า รัฐประหาร 2534 จะเป็น

               “รัฐประหารครั้งสุดท้าย” ของการเมืองไทย เพราะกองทัพมีบทเรียนอย่างมากจาก
               การล้อมปราบทางการเมืองในเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2535 อีกทั้งผลจาก
               เหตุการณ์นี้ก็ทำให้กองทัพ “บอบช้ำ” ทางการเมืองอย่างมากด้วย แต่ดังได้กล่าว

               แล้วว่า หลังจากชัยชนะของฝ่ายประชาธิปไตยแล้ว รัฐบาลหลังระยะเปลี่ยนผ่าน
               ทางการเมืองไม่เคยได้ทำการปฏิรูปทางการเมืองต่อกองทัพ หรือที่เรียกว่า
               นำกองทัพเข้าสู่กระบวนการ “ลดทอนความเป็นการเมือง” ของสถาบันทหาร

               (Depoliticization) เพื่อให้กองทัพหมดความเป็น “ตัวแสดงที่มีศักยภาพ” ทาง
               การเมืองลง หรืออีกนัยหนึ่งก็คือทำให้ทหารหมด “ความโน้มเอียง” (disposition)
               ในการแทรกแซงทางการเมือง ซึ่งก็หมายรวมถึงทำให้หมดทั้ง “แรงจูงใจ”

               (motive) และขณะเดียวกันก็ทำให้หมด “ความปรารถนา” (desire) ที่จะเข้ามามี
           4   บทบาททางการเมือง เพราะหากกองทัพไม่มีปัจจัยของความโน้มเอียงที่จะเข้าสู่

               เวทีการเมืองแล้ว ปัญหาการแทรกแซงของกองทัพก็น่าจะหมดความสำคัญลง   30


                     อย่างไรก็ตาม เห็นได้ชัดเจนว่า รัฐบาลทหารที่ขึ้นสู่อำนาจหลังรัฐประหาร
               พ.ศ. 2549 อยู่ในอำนาจไม่นานนัก และในช่วงเดือนธันวาคม พ.ศ. 2550

               การเลือกตั้งก็เกิดขึ้นอีกครั้ง อำนาจทางการเมืองกลับมาอยู่ในมือของพรรคที่ถูก
               ทหารโค่นล้มในปี พ.ศ. 2549 แต่ในครั้งใหม่นี้ การต่อสู้ของชนชั้นนำและกลุ่ม
               อนุรักษ์นิยมหันไปใช้กระบวนการทางกฎหมายของสถาบันตุลาการ ภายใต้นิยาม

               “ตุลาการภิวัตน์” (Judicial Activism)  ไม่ว่าจะเป็นการปลดนายกรัฐมนตรี
                                                  31
               ออกจากตำแหน่ง การยุบพรรคฝ่ายตรงข้าม ตลอดรวมถึงการเอาผิดทางกฎหมาย


                  30   ดูแนวคิดนี้ได้ในบทที่ 4 และบทที่ 5 ของ  Samuel E. Finer, The Man on
               Horseback: The Role of the Military in Politics.
               
  31   ดูรายละเอียดประเด็นตุลาการภิวัฒน์ใน สุรชาติ บำรุงสุข, “Juristocracy: ตุลาการ
               ธิปไตยในการเมืองไทย” 34, 1755 (4-10 เมษายน 2557): 36-37 ; “ตุลาการภิวัฒน์ ตุลาการ
               ธิปไตย,” มติชนสุดสัปดาห์ 34, 1758 (25 เม.ย.-1 พ.ค. 2557): 10 ; “ตุลาการภิวัฒน์,”
               มติชนสุดสัปดาห์ 35, 1805 (20-26 มีนาคม 2558): 10.




         สถาบันพระปกเกล้า
   77   78   79   80   81   82   83   84   85   86   87