Page 71 - kpi16607
P. 71
ดุลอำนาจ ในการเมืองการปกครองไทย
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ไม่ใช่วันของการเปลี่ยนแปลงการปกครอง
อีกต่อไป... อิทธิพลของคณะราษฎร ซึ่งถูกทำลายไปตั้งแต่ความสำเร็จของ
รัฐประหาร 2490 จนอาจถือว่า ปี พ.ศ. 2490 คือเวลาแห่ง “การสิ้นสุด” ของ
คณะราษฎร และการเปลี่ยนแปลงวันชาติในยุคจอมพลสฤษดิ์ไม่ได้เป็นอะไรไป
กว่าการตอกย้ำว่า การเปลี่ยนแปลงการปกครอง 2475 เป็น “อดีต” ที่จบไปหมด
แล้ว และจะไม่มีวันหวนกลับคืนมา ที่แม้แต่การรำลึกถึงก็เป็นสิ่งที่ไม่ควรจะ
หลงเหลือไว้ให้อนุชนรุ่นหลังได้รับรู้อีกต่อไป และเช่นเดียวกับบทบาทของกองทัพ
ในยุคหลัง 2475 ในฐานะของ “ผู้ปกป้อง” ระบอบรัฐธรรมนูญนิยม ก็เปลี่ยนไป
กับยุคสงครามเย็น กลายเป็น “ผู้ปกป้อง” รัฐให้พ้นจากการคุกคามของลัทธิ
คอมมิวนิสต์ 16
ในยุคต่อมา อุดมการณ์ต่อต้านลัทธิคอมมิวนิสต์เช่นนี้ก็ถูกนิยาม
ให้เกิดความชัดเจนมากขึ้นว่า ทหารมีหน้าที่ในการปกป้องสถาบันชาติ-ศาสนา-
พระมหากษัตริย์ หรืออีกนัยหนึ่งก็คือ การให้นิยามปฏิบัติการ (operational
definition) ของคำว่า “ต่อต้านคอมมิวนิสต์” คือการคุ้มครองสถาบัน
3
“ชาติ-ศาสนา-พระมหากษัตริย์” อันทำให้ชุดความคิดแบบเก่าถูกแทรกกลับเข้ามา
สู่การเป็นอุดมการณ์ทหารอีกครั้ง แม้อุดมการณ์ชุดนี้จะหายไปตั้งแต่ครั้ง 2475
แต่หลังจากรัฐประหาร 2490 และรัฐประหาร 2501 แล้ว แนวคิดชุดนี้ก็หวน
กลับมาใหม่ และผนวกเข้ากับอุดมการณ์ชาตินิยมและเสนานิยมได้อย่างลงตัว
อีกครั้ง อีกทั้งในช่วงของสงครามต่อต้านคอมมิวนิสต์ รัฐไทยมีความจำเป็นต้อง
สร้างให้อุดมการณ์ที่เป็นดัง “ตรีเอกานุภาพ” ของการเมืองคือ ชาติ-ศาสนา-
พระมหากษัตริย์ กล่าวคือ สถาบันกษัตริย์ในทัศนะของทหารก็คือตัวแทนของ
ความเป็นไทย อันส่งผลให้สถาบันชาติ-ศาสนา-พระมหากษัตริย์เป็นดัง
“ศูนย์กลางจักรวาล” ในโลกของทหาร
ดังนั้นแล้ว การปกป้องสถาบันชาติ-ศาสนา-พระมหากษัตริย์ จึงมีความ
หมายโดยรวมถึงการปกป้องความเป็นชาติไทยด้วย สภาพเช่นนี้จึงเท่ากับยิ่ง
16 ดูรายละเอียดเพิ่มเติมใน Surachart Bamrungsuk, United States Foreign Policy
and Thai Military Rule, 1947-1977 ; สุธาชัย ยิ้มประเสริฐ, แผนชิงชาติไทย: ว่าด้วยรัฐ
และการต่อต้านรัฐ สมัยจอมพล ป. พิบูลสงคราม ครั้งที่สอง (พ.ศ. 2491-2500) และ ชาญ
วิทย์ เกษตรศิริ, ประวัติการเมืองไทย.
สถาบันพระปกเกล้า