Page 62 - kpi16607
P. 62
ดุลอำนาจ ในการเมืองการปกครองไทย
ราชสำนักมัณฑะเลย์ และความพ่ายแพ้เช่นนี้ปรากฏให้เห็นต่อมาอีกถึง 2 ครั้งคือ
สงครามอังกฤษกับพม่าครั้งที่ 2 ระหว่าง พ.ศ. 2395-2396 (ค.ศ. 1852-1853)
และสงครามอังกฤษกับพม่าครั้งที่ 3 ใน พ.ศ. 2428 (ค.ศ. 1885)... การรบทั้ง
สามครั้งจบลงด้วยความพ่ายแพ้อย่างยับเยินของกองทัพแบบเก่าของราชสำนัก
มัณฑะเลย์ และกองทัพเช่นนี้ครั้งหนึ่งเคยเอาชนะกองทหารของราชสำนักสยาม
ในยุคอยุธยามาแล้ว แต่เมื่อต้องเผชิญหน้ากับกองทัพสมัยใหม่ในยุคอาณานิคม
พวกเขากลับพ่ายแพ้ถึง 3 ครั้ง หรือกองทัพของพระเจ้ากรุงญวนที่เคยทำสงคราม
กับกองทัพสยามในปี พ.ศ. 2384-2385 (ค.ศ. 1841-1842) แต่เมื่อต้องเผชิญ
กับกองทหารอาณานิคมของฝรั่งเศสแล้ว กองทัพของราชสำนักเว้ก็ต้องประสบกับ
ความพ่ายแพ้ถึง 3 ครั้งไม่แตกต่างกัน (สงครามครั้งที่ 1 พ.ศ. 2384, ครั้งที่ 2
พ.ศ. 2416 และครั้งที่ 3 พ.ศ. 2426) ภายใต้เงื่อนไขเช่นนี้ ราชสำนักสยามไม่มี
ทางเลือกอื่น นอกจากจะต้องหันมาปรับปรุงและยกระดับกองทหารของตนให้เป็น
“กองทัพสมัยใหม่” ด้วยการยึดเอากองทัพของตะวันตกเป็น “ตัวแบบ” (Model)
4 แม้ในช่วงต้นของยุครัตนโกสินทร์ ผู้นำสยามอย่างพระบาทสมเด็จ
พระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 อาจจะกระทำได้ในระดับที่จำกัดอย่างมาก
ส่วนหนึ่งเป็นเพราะความจำกัดทางสังคมการเมืองที่สยามยังอยู่ภายใต้ระบอบ
การปกครองในลักษณะของความเป็น “รัฐโบราณ” ที่กลายเป็นความจำกัดต่อ
การกำเนิดของ “กองทัพสมัยใหม่” ดังเช่นที่เห็นได้จากประวัติศาสตร์การทหาร
ของรัฐยุโรป จนกระทั่งในยุคของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
รัชกาลที่ 5 พระองค์จึงเริ่มคิดถึงการจัดระบบทหารสมัยใหม่อย่างจริงจัง โดยมี
พัฒนาการต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2413 (ค.ศ. 1870) ด้วยการจัดตั้ง
“กองทหารมหาดเล็ก” ในแบบทหารยุโรปขึ้น และในปีต่อมาการจัดกำลังส่วนนี้
ขยายตัวจนสามารถจัดเป็นระดับกองร้อย [เรียกว่า “คอมปานี” (company)]
ได้ถึง 6 กองร้อย และเป็นจุดกำเนิดของ “กรมทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษา
พระองค์” ต่อมาใน พ.ศ. 2415 (ค.ศ. 1872) พระองค์จึงได้โปรดเกล้าฯ ให้จัด
ระบบการเรียนการสอนทางทหารขึ้น โดยเรียกว่าเป็น “คะเด็ต” (cadet)
จนกระทั่งที่สุดแล้วพระองค์จึงให้รวบรวม “คะเด็ต” จากทหารส่วนต่างๆ และ
จัดตั้งขึ้นเป็น “คะเด็ตสกูล” (cadet school) ขึ้น และพระองค์ได้เสด็จ
พระราชดำเนินมาทรงเปิดโรงเรียนนี้ในวันที่ 5 สิงหาคม พ.ศ. 2430 (ค.ศ.
สถาบันพระปกเกล้า