Page 125 - kpi16607
P. 125
ดุลอำนาจ ในการเมืองการปกครองไทย
ก่อให้เกิดความเสียหายต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศและประชาชนในระยะ
ยาว” ความพยายามดังกล่าวก็ยากที่จะประสบผลสำเร็จ และจะก่อให้เกิดปัญหา
ของความชอบธรรมในระบบประชาธิปไตยด้วยเหตุผล 2 ประการคือ
ประการที่หนึ่ง ดังที่ผู้เขียนได้กล่าวมาในส่วนที่ 3 แล้วว่า เป็นการยาก
ที่เราจะตัดสินในทางกฎหมายว่านโยบายใดเป็น “นโยบายประชานิยม” เพราะ
ไม่ได้มีคำจำกัดความเดียวที่ทุกฝ่ายเห็นพ้องต้องกัน แม้จะใช้คำจำกัดความตามที่
ผู้เขียนเสนอว่า นโยบายประชานิยมมีองค์ประกอบ 3 ประการคือ การมุ่งให้ได้รับ
การสนับสนุนทางการเมืองจากประชาชน การโอนรายได้หรือทรัพยากรจากกลุ่ม
คนกลุ่มหนึ่งไปคนอีกกลุ่มหนึ่ง และการที่นโยบายนั้นไม่สร้างขีดความสามารถให้
แก่ประชาชน ก็น่าจะไม่ช่วยแก้ไขปัญหาได้มากนัก เพราะการวิเคราะห์ว่านโยบาย
หนึ่งๆ มีองค์ประกอบเข้าข่ายเป็น “นโยบายประชานิยม” โดยเฉพาะช่วยสร้าง
ขีดความสามารถให้แก่ประชาชนหรือไม่นั้น แม้อาจทำได้ในทางเศรษฐศาสตร์
แต่ก็น่าจะมีปัญหาในทางกฎหมาย ในทำนองเดียวกัน การวิเคราะห์ว่านโยบายใด
“มุ่งสร้างความนิยมทางการเมืองที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อระบบ 11
เศรษฐกิจของประเทศและประชาชนในระยะยาว” ตามมาตรา 35(7) ของ
รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พ.ศ. 2557 ก็จะประสบ
ปัญหาเช่นกัน
ประการที่สอง การที่รัฐธรรมนูญจะบังคับห้ามไม่ให้รัฐบาลมีนโยบายใดๆ
นั้น เป็นการจำกัดเสรีภาพของรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชนในการนำ
เสนอนโยบาย และจำกัดเสรีภาพของประชาชนผู้ออกเสียงเลือกตั้งในการเลือก
นโยบายที่ตนนิยมชมชอบ โดยเฉพาะหากการห้ามดังกล่าวที่ไม่สามารถกำหนด
ขอบเขตที่แน่ชัดในทางกฎหมายดังที่กล่าวมาข้างต้น และจะทำให้เกิดปัญหา
ความชอบธรรมว่า ศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งไม่ได้มาจากการเลือกตั้งของประชาชน
ใช้ดุลพินิจของตนไปจำกัดสิทธิของรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน และ
จำกัดสิทธิของประชาชนผู้ลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง
สถาบันพระปกเกล้า