Page 120 - kpi16607
P. 120
ดุลอำนาจ ในการเมืองการปกครองไทย
นโยบายที่เข้าข่ายนโยบายประชานิยมอย่างชัดแจ้งก็คือ นโยบายที่เน้นการ
“ลด แลก แจก แถม” เช่น นโยบายรถคันแรก นโยบายรับจำนำข้าว นโยบาย
เช็คช่วยชาติ ซึ่งมุ่งหวังคะแนนเสียงทางการเมือง และการกระตุ้นเศรษฐกิจ
ระยะสั้น โดยไม่ทำให้ประชาชนมีขีดความสามารถเพิ่มขึ้นเลย
นโยบายประชานิยมหลายนโยบายยังมีปัญหาที่สำคัญอีกประการหนึ่งคือ
การขาดวินัยทางการคลัง เพราะการดำเนินนโยบายมักใช้เงินนอกงบประมาณ
(off-budget expenditure) เช่น โครงการรับจำนำข้าว ซึ่งใช้ธนาคารเพื่อ
การเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธกส.) ในการดำเนินโครงการ หรือโครงการ
รถคันแรก ซึ่งใช้วิธีการคืนภาษีสรรพสามิตที่ลดหย่อนแก่ผู้ซื้อรถ ทำให้การดำเนิน
โครงการเหล่านี้ไม่ต้องผ่านกระบวนการงบประมาณ ไม่ต้องขออนุมัติจากรัฐสภา
และขาดการตรวจสอบการดำเนินการที่เข้มงวดเหมือนกับการใช้เงินงบประมาณ
แต่เมื่อโครงการขาดทุน และผลักภาระหนี้ให้รัฐบาลต้องตั้งงบประมาณเพื่อชดเชย
ในภายหลัง รัฐสภาก็ไม่สามารถตัดงบประมาณดังกล่าวได้ นอกจากนี้ การไม่ผ่าน
112 กระบวนการงบประมาณ ทำให้โครงการเหล่านี้ไม่ถูกบังคับให้จำกัดวงเงิน จึงไม่
สามารถควบคุมค่าใช้จ่ายได้ เพราะมีลักษณะปลายเปิด (open ended) เช่น
โครงการรับจำนำข้าวก็เปิดรับจำนำข้าวทุกเมล็ด โดยไม่รู้ล่วงหน้าว่าจะใช้เงินเท่าไร
ในแต่ละปี
ความสำเร็จของการใช้นโยบายประชานิยมในการหาเสียงเลือกตั้งหลายครั้ง
ของพรรคไทยรักไทยสืบเนื่องต่อมาถึงพรรคเพื่อไทย ทำให้นโยบายประชานิยม
กลายเป็นกระแสหลักในระบบการเมืองไทย และพ้นฐานะจากการเป็นเพียง
นโยบายของพรรคการเมืองบางพรรค เพราะพรรคการเมืองใหญ่ทุกพรรค
ที่ต้องการชนะจะต้องนำมาใช้หาเสียง เราจึงคาดหมายได้ว่า หากไม่มีการปฏิรูป
กฎกติกาทางเศรษฐกิจและการเมืองที่เกี่ยวข้องแล้ว ประเทศไทยจะต้องเผชิญกับ
ปัญหาจากนโยบายประชานิยมไปอีกนาน
ประสบการณ์ในละตินอเมริกาชี้ว่า เมื่อประเทศเหล่านี้เริ่มใช้นโยบาย
ประชานิยมแล้ว มักเลิกได้ค่อนข้างยาก จนเกิดปรากฏการณ์ที่เรียกว่า “วัฏจักร
ประชานิยม” ซึ่งเริ่มจากการใช้นโยบายประชานิยมเพื่อลดความไม่เท่าเทียม
สถาบันพระปกเกล้า