Page 130 - kpi16607
P. 130
ดุลอำนาจ ในการเมืองการปกครองไทย
7. สรุปและข้อเสนอแนะ
หากประเทศไทยมีความเป็นประชาธิปไตยมากขึ้นในอนาคต ในขณะที่ยังมี
ความเหลื่อมล้ำทางสังคมในระดับสูงต่อไป ก็จะมีแรงกดดันให้เกิดการกระจาย
รายได้ในรูปของการจัดสวัสดิการต่างๆ หรือการใช้นโยบายประชานิยม ทางออก
จากปัญหาดังกล่าว ไม่ใช่การยับยั้งหรือชะลอความเป็นประชาธิปไตยของประเทศ
เพราะประชาธิปไตยเป็นระบบการปกครองที่มีปัญหาน้อยที่สุดที่มนุษย์เคยทดลอง
กันมา หรือการห้ามใช้นโยบายประชานิยม โดยการกำหนดข้อห้ามต่างๆ ในแนว
นโยบายพื้นฐานของรัฐในรัฐธรรมนูญ เพราะทำได้ยากและเสี่ยงต่อปัญหาของ
ความชอบธรรม
ทางออกจากปัญหาดังกล่าวที่เหมาะสมในความเห็นของผู้เขียน คือ การ
พัฒนาประชาธิปไตยของประเทศไทยให้เข้มแข็งมากขึ้น โดยเพิ่มกลไกตรวจสอบ
ถ่วงดุลโดยรัฐสภา ควบคู่ไปกับการสร้างวินัยทางการคลังจากการสร้างกฎกติกา
122 ต่างๆ ดังต่อไปนี้
ประการที่หนึ่ง ควรมีบทบัญญัติในรัฐธรรมนูญที่ทำหน้าที่เป็น “ธรรมนูญ
การคลัง” (fiscal constitution) โดยกำหนดให้การจ่ายเงินแผ่นดินใดๆ ต้องทำ
ตามกฎหมายว่าด้วยงบประมาณรายจ่าย และกฎหมายว่าด้วยวิธีการงบประมาณ
เพื่อป้องกันการใช้เงินนอกงบประมาณ คล้ายกับที่เคยบัญญัติในวรรคแรกของ
4
มาตรา 169 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2550 แต่ควรเพิ่มให้
มีนิยามของคำว่า “เงินแผ่นดิน” เพื่อให้เกิดความชัดเจนมากยิ่งขึ้น และลดปัญหา
ในการตีความ
4 มาตรา 169 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2550 การจ่ายเงินแผ่นดิน
จะกระทำได้ก็เฉพาะที่ได้อนุญาตไว้ในกฎหมายว่าด้วยงบประมาณรายจ่าย กฎหมายว่าด้วยวิธีการ
งบประมาณ กฎหมายเกี่ยวด้วยการโอนงบประมาณ หรือกฎหมายว่าด้วยเงินคงคลัง เว้นแต่
ในกรณีจำเป็นเร่งด่วนรัฐบาลจะจ่ายไปก่อนก็ได้ แต่ต้องเป็นไป ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่
กฎหมายบัญญัติ ในกรณีเช่นว่านี้ต้องตั้งงบประมาณรายจ่ายเพื่อชดใช้ เงินคงคลังในพระราชบัญญัติ
โอนเงินงบประมาณรายจ่าย พระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติม หรือพระราชบัญญัติ
งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณถัดไป ทั้งนี้ ให้กำหนดแหล่งที่มาของรายได้ เพื่อชดใช้
รายจ่ายที่ได้ใช้เงินคงคลังจ่ายไปก่อนแล้วด้วย
สถาบันพระปกเกล้า