Page 88 - kpi12821
P. 88
แนวทางปรับปรุงกฏหมายเกี่ยวกับการยุบพรรคการเมือง
ติดต่อกันหนึ่งปี และ (ค) ไม่มีการเรียกประชุมใหญ่พรรคการเมือง หรือไม่มีการดำเนิน
กิจกรรมใดทางการเมืองเป็นระยะเวลาติดต่อกันหนึ่งปี โดยมิได้มีเหตุอันสมควรอันจะ
อ้างได้ตามกฎหมาย ทั้งนี้ ตามกฎหมายพรรคการเมือง มาตรา 91 (1) (3) และ (4)
โดยลำดับ
2.3.2 เหตุแห่งการยุบพรรคการเมือง ได้แก่ เหตุตามกฎหมาย
พรรคการเมือง (ก) เหตุที่ไม่ยื่นรายงานการดำเนินกิจการของพรรคการเมืองภายใน
กำหนดเวลาโดยไม่มีเหตุผลอันสมควร ตามมาตรา 42 วรรคสอง และ (ข) การไม่ยื่น
รายงานการใช้จ่ายเงินสนับสนุนของพรรคการเมือง หรือยื่นรายงานที่ไม่ถูกต้องตาม
ความเป็นจริง หรือใช้จ่ายเงินที่ได้รับสนับสนุนจากกองทุนเพื่อการพัฒนาพรรคการเมือง
โดยไม่ถูกต้องตามกฎหมาย ตามมาตรา 82 และ (ค) กระทำการฝ่าฝืนข้อห้ามตาม
กฎหมาย ทั้งในเรื่องการรับคนต่างด้าวเข้าเป็นสมาชิกหรือปล่อยให้ยุ่งเกี่ยวกับกิจการ
ของพรรคตามมาตรา 21 วรรคหนึ่ง การที่พรรคการเมืองเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการเลือกตั้ง
และการได้มาซึ่ง ส.ว. ตามมาตรา 43 การที่พรรคการเมืองรับบริจาคโดยรู้ว่าได้มา
โดยมิชอบด้วยกฎหมายตามมาตรา 65 และการรับบริจาคจากต่างด้าวตามมาตรา 69
ตลอดจนการที่พรรคการเมืองใส่ความว่าบุคคลหรือพรรคการเมืองอื่นกระทำผิด
กฎหมายพรรคการเมืองโดยปราศจากมูลความจริงตามมาตรา 104 และ (ง) เหตุอื่นๆ ที่
บัญญัติไว้ในกฎหมายเลือกตั้ง ประกอบด้วย การกลั่นแกล้งใส่ความผู้สมัครว่ากระทำผิด
กฎหมาย ซึ่งให้ถือว่าเป็นการกระทำที่อาจเป็นภัยต่อความมั่นคง ตามมาตรา 140
วรรคสี่ และการเรียกหรือรับผลประโยชน์เพื่อลงสมัครหรือไม่ลงสมัครรับเลือกตั้งตาม
มาตรา 144 วรรคสอง
ส่วนเหตุยุบพรรคการเมืองเพราะสมาชิกหรือกรรมการบริหาร
พรรคการเมืองกระทำการอันเป็นการฝ่าฝืนพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วย
การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา หรือระเบียบหรือ
ประกาศของคณะกรรมการการเลือกตั้ง ซึ่งมีผลทำให้การเลือกตั้งมิได้เป็นไปโดยสุจริต
และเที่ยงธรรมนั้น แม้เป็นกรณีที่บัญญัติไว้โดยตรงในรัฐธรรมนูญ มาตรา 237 วรรคสอง
(ซึ่งโยงมาถึงมาตรา 103 วรรคสองของกฎหมายเลือกตั้ง) ก็ตาม แต่ผู้วิจัยก็เห็นว่า
เป็นหลักการที่ไม่สอดคล้องกับหลักนิติธรรมหรือหลักนิติรัฐ และหลักกฎหมายสิทธิ
มนุษยชนระหว่างประเทศ จึงจัดไว้ในกลุ่มที่มีปัญหาในเชิงหลักการนี้ด้วย
2.3.3 ผลของการยุบพรรคการเมือง ได้แก่ กรณีการเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง
ทั้งตามมาตรา 237 วรรคสองของรัฐธรรมนูญและมาตรา 103 วรรคสองของกฎหมาย