Page 93 - kpi12821
P. 93

ณรงค์เดช  สรุโฆษิต




                    ตัดสินใจว่าพรรคจะเข้าร่วมรัฐบาลกับพรรคการเมืองใดหรือไม่ กำหนดตัวบุคคลที่จะ

                    เป็นรัฐมนตรีในสัดส่วนของพรรค และตัดสินใจในเรื่องสำคัญๆ ของพรรค แม้ว่าผู้วิจัยจะ
                    ไม่เห็นด้วยกับการยุบพรรคการเมืองแทบทุกคดีที่ผ่านมา ทั้งนี้ ไม่ว่าเจตนาของผู้มี
                    อำนาจดังกล่าวจะถูกต้องตามทำนองคลองธรรมและครรลองประชาธิปไตยหรือไม่ แต่
                    ผู้วิจัยก็ตระหนักดีว่า สภาพข้อเท็จจริงเช่นนี้สะท้อนรูรั่ว-ช่องโหว่ของกฎหมาย


                          เหตุผลก็คือ ลองสมมุติข้อเท็จจริงว่า มีพรรคการเมืองที่มุ่งสร้างระบอบเผด็จการ
                    ขวาจัด ทำนองเดียวกับพรรคนาซีเกิดขึ้นในวงการเมืองไทย และได้ถูกศาลสั่งยุบไป หาก
                    ต่อมา แกนนำพรรคการเมืองดังกล่าวยังคงมีอำนาจในการครอบงำกิจการบ้านเมืองผ่าน

                    พรรคการเมืองที่ตั้งขึ้นใหม่ เช่นนี้ ย่อมเป็นตัวอย่างที่บ่งชี้ถึงการขาดไร้มาตรการที่ทำให้
                    การยุบพรรคการเมืองเกิดสภาพบังคับที่แท้จริงในกฎหมายไทย แต่ทั้งนี้ มิได้หมายความ
                    ว่า ผู้วิจัยเสนอให้มีการจำกัดลิดรอนสิทธิเสรีภาพทางการเมืองในประการอื่นๆ เช่น

                    เสรีภาพในการแสดงออกทางการเมืองของบรรดาผู้ที่ถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งอันเป็น
                    ผลสืบเนื่องจากการยุบพรรคการเมืองแต่อย่างใด

                          ด้วยเหตุนี้ ผู้วิจัยจึงมีความเห็นในชั้นต้นว่า สมควรศึกษาแนวทางการนำ

                    มาตรการห้ามองค์กรแทนที่มาบัญญัติไว้ในกฎหมายเกี่ยวกับการยุบพรรคการเมืองของ       1
                    ไทยด้วย แต่ก็ควรจำกัดไว้แต่เฉพาะกรณีพรรคการเมืองที่เป็นปฏิปักษ์ต่อรัฐและล้มล้าง
                    การปกครองระบอบประชาธิปไตยจริงๆ เท่านั้น ไม่ควรนำมาใช้พร่ำเพรื่อ ดังเช่นเหตุ
                    ยุบพรรคการเมืองของไทยที่กำหนดไว้อย่างกว้างขวางเกินสมควร เพราะมิเช่นนั้นแล้ว

                    มาตรการห้ามมีองค์กรแทนที่อาจถูกใช้เป็นเครื่องมือทำลายพรรคการเมือง และทำร้าย
                    ระบบพรรคการเมืองและระบบการเมืองไทยในระยะยาวจนยากเกินเยียวยาก็เป็นได้
   88   89   90   91   92   93   94   95   96   97   98