Page 307 - kpi12821
P. 307

ณรงค์เดช  สรุโฆษิต




                    เป็นการละเมิดสิทธิเสรีภาพของปัจเจกชนเกินสมควร ขัดต่อหลักความเสมอภาค หลัก

                    ความได้สัดส่วน หลักนิติธรรมและหลักนิติรัฐ ดังได้กล่าวมาแล้ว

                               อนึ่ง ในเรื่องนี้ คณาจารย์คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

                    5 ท่าน นำโดยรองศาสตราจารย์ ดร. วรเจตน์ ภาคีรัตน์ เคยวิเคราะห์วิจารณ์ไว้ล่วงหน้า
                    แล้วว่า การตีความบทบัญญัติรัฐธรรมนูญในลักษณะดังกล่าวนั้น “ย่อมฝืนต่อ
                    สามัญสำนึกของวิญญูชนทั่วไป”  และเสนอให้ “พิจารณาระบบกฎหมายทั้งระบบ
                                                113
                    พิจารณาหลักเกณฑ์อันเป็นเสาหลักที่ยึดโยงระบบกฎหมายนั้นไว้ตลอดจนพิจารณา
                    จากวัตถุประสงค์ของบทกฎหมายบทนั้น (ratio legis) หลักเกณฑ์การตีความ

                    ดังกล่าวมานี้เป็นเครื่องป้องกันไม่ให้เกิดการตีความกฎหมายที่ส่งผลอันประหลาด
                    และขัดกับสำนึกในเรื่องความยุติธรรม”  พร้อมทั้ง ยังอธิบายต่อว่า ในกรณีที่
                                                         114
                    รัฐธรรมนูญมีบทบัญญัติซึ่ง


                             “...ฝ่าฝืนกับหลักเหตุผลเช่นนี้ ในการตีความรัฐธรรมนูญตลอดจนกฎหมายที่
                       เกี่ยวข้อง... จึงต้องตีความกฎหมายไปในทางแก้ไขให้สอดรับกับหลักการพื้นฐานของ
                       รัฐธรรมนูญ ทั้งนี้ เพราะบทบัญญัติที่ปรากฏในรัฐธรรมนูญนั้น มีทั้งบทบัญญัติที่เป็น
                       คุณค่าพื้นฐานและบทบัญญัติที่เป็นรายละเอียด บทบัญญัติที่เป็นหลักการสำคัญที่
                       ปรากฏในรัฐธรรมนูญย่อมได้แก่ หลักการปกครองในระบอบประชาธิปไตยและหลัก
                       ราชอาณาจักรที่เป็นรัฐเดี่ยวซึ่งรัฐธรรมนูญเองก็ได้รับรองไว้ในมาตรา 291 ห้ามมิให้
                       เสนอญัตติขอแก้ไขเปลี่ยนแปลง เท่ากับว่ารัฐธรรมนูญได้ยกคุณค่าของเรื่องดังกล่าวนี้
                       ให้สูงกว่าบทบัญญัติอื่นๆ ยิ่งไปกว่านั้น ในมาตรา 3 วรรคสองของรัฐธรรมนูญฉบับนี้
                       ก็ได้บัญญัติให้ การปฏิบัติหน้าที่ของรัฐสภา คณะรัฐมนตรี ศาล รวมทั้งองค์กรตาม
                       รัฐธรรมนูญและหน่วยงานของรัฐต้องเป็นไปตามหลักนิติธรรมและบทบัญญัติใน
                       มาตรา 29 ก็บัญญัติคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพของบุคคลไว้ การจำกัดตัดทอนสิทธิ
                       เสรีภาพของบุคคลจะต้องกระทำเท่าที่จำเป็นและจะกระทบกระเทือนสาระสำคัญ
                       ของสิทธิและเสรีภาพนั้นมิได้ ซึ่งย่อมหมายว่า การจำกัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคล
                       จะต้องกระทำตามหลักความพอสมควรแก่เหตุเท่านั้น” 115






                       113   วรเจตน์ ภาคีรัตน์ และคณะ, แถลงการณ์ของคณาจารย์คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
                    ฉบับที่ 6, ข้อ 5; ผู้สนใจเกี่ยวกับนิติวิธีการตีความกฎหมายมหาชน โปรดดู วรเจตน์ ภาคีรัตน์, “การใช้และการ
                    ตีความกฎหมายมหาชน,” วารสารวิชาการศาลปกครอง, ปีที่ 8 ฉบับที่ 2 (พฤษภาคม - สิงหาคม) 2551.

                       114   วรเจตน์ ภาคีรัตน์ และคณะ, เรื่องเดิม, ข้อ 4.
                       115   เรื่องเดียวกัน, ข้อ 7.
   302   303   304   305   306   307   308   309   310   311   312