Page 301 - kpi12821
P. 301
ณรงค์เดช สรุโฆษิต
อำนาจวินิจฉัยข้อพิพาทโดยองค์กรผู้ใช้อำนาจอื่นนี้เรียกกันทางวิชาการว่า “การใช้
อำนาจกึ่งตุลาการ” (Quasi-judicial Power) 93
การให้องค์กรอื่นมาใช้อำนาจวินิจฉัยข้อพิพาทในลักษณะเช่นนี้ไม่ได้ขัดต่อ
หลักการแบ่งแยกอำนาจ เพราะในท้ายที่สุด การใช้อำนาจกึ่งตุลาการดังกล่าวก็ต้องถูก
94
ควบคุมตรวจสอบโดยองค์กรศาลในการใช้อำนาจตุลาการอยู่ดี ทั้งนี้ เพราะหัวใจ
สำคัญของการใช้อำนาจตุลาการตามหลักการแบ่งแยกอำนาจก็คือ องค์กรผู้ใช้อำนาจ
ตุลาการนั้นต้องมีความเป็นอิสระจากองค์กรผู้ใช้อำนาจนิติบัญญัติและองค์กรผู้ใช้อำนาจ
95
บริหาร ดังนั้นการที่ปล่อยให้องค์กรผู้ใช้อำนาจนิติบัญญัติ หรือองค์กรผู้ใช้อำนาจ
บริหาร มาร่วมใช้อำนาจตุลาการวินิจฉัยข้อพิพาทเกี่ยวกับการใช้อำนาจของตนให้ “เป็น
ที่สุดและเด็ดขาด” ย่อมทำให้การใช้อำนาจนิติบัญญัติหรือการใช้อำนาจบริหารดังกล่าว
เบ็ดเสร็จเด็ดขาดในตัวเอง ไม่อาจถูกควบคุมตรวจสอบได้ และย่อมขัดต่อหลักการแบ่ง
แยกอำนาจ
นอกจากนี้ การใช้อำนาจตุลาการตามหลักการแบ่งแยกอำนาจ ก็มิได้
ผูกขาดอยู่กับ “ศาล” แต่เพียงองค์กรเดียว องค์กรอื่นๆ หากมีความเป็นอิสระและมี
96
ลักษณะเฉพาะครบถ้วนด้วยองค์ประกอบขององค์กรผู้ใช้อำนาจตุลาการ ก็ย่อมใช้
อำนาจวินิจฉัยชี้ขาดข้อพิพาทให้มีผลเป็นที่สุดในระบบกฎหมาย (res judicata) ได้
ดังเช่นที่ศาลรัฐธรรมนูญเยอรมัน (Bundesverfassungsgericht) เคยวินิจฉัยว่า การ
แก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญกำหนดให้มีคณะกรรมการอิสระที่แต่งตั้งโดยรัฐสภา ทำหน้าที่
วินิจฉัยข้อพิพาทเกี่ยวกับการดักฟังและการตรวจสอบการสื่อสารทั้งทางอิเล็กทรอนิกส์
และทางไปรษณีย์ในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงของชาติแทนศาลนั้น มิได้ขัดต่อหลัก
การแบ่งแยกอำนาจและหลักความเป็นอิสระของศาล ซึ่งเป็นหลักการระดับ “คุณค่า
พื้นฐาน” อันจะเปลี่ยนแปลงแก้ไขมิได้ของรัฐธรรมนูญ แต่อย่างใด 97
93 ผู้สนใจโปรดดู บวรศักดิ์ อุวรรณโณ และคณะ, คดีปกครองเกี่ยวกับคำวินิจฉัยของคณะกรรมการ
วินิจฉัยข้อพิพาท, สำนักงานศาลปกครอง (ม.ปท., 2542) น. 1 – 12.
94 เปรียบเทียบกรณีของเยอรมัน โปรดดู David P. Currie, The Constitution of the Federal
Republic of Germany, (Chicago: University of Chicago Press, 1994), น. 161 – 162.
95 วรพจน์ วิศรุตพิชญ์, “ศาลปกครองกับหลักการแบ่งแยกอำนาจ,” ใน เรื่องเดิม, น. 64.
96 ผู้สนใจองค์ประกอบขององค์กรผู้ใช้อำนาจตุลาการ โปรดดู บุญศรี มีวงศ์อุโฆษ, กฎหมายรัฐธรรมนูญ,
(กรุงเทพฯ: เดือนตุลา, 2549) น. 363 – 365.
97 BVerfGE 30, 1 (23 – 29) [Eavesdropping Case] อ้างถึงใน David P. Currie, เรื่องเดิม, น. 171 -
172; แต่ทั้งนี้ โปรดเทียบ คำพิพากษาศาลฎีกาไทยหลายฉบับที่วินิจฉัยว่า การตั้งคณะบุคคลที่มิใช่ศาลมาทำการ
พิจารณาพิพากษาอรรถคดีย่อมขัดต่อประเพณีการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็น
ประมุข เช่น ฎีกาที่ 913/2536 ฎีกาที่ 222/2506 ฎีกาที่ 1240/2514 และคำวินิจฉัยของคณะตุลาการ
รัฐธรรมนูญ ลงวันที่ 18 ก.พ. 2501 เป็นต้น.