Page 289 - kpi12821
P. 289
ณรงค์เดช สรุโฆษิต
และที่สำคัญ เมื่อพิจารณาในมิติความสัมพันธ์ระหว่างด้านหนึ่งคือ
พฤติการณ์และความร้ายแรงของการกระทำทุจริตเลือกตั้งโดยผู้สมัครรายเดียวหรือ
สองราย ทำการทุจริตในเขตเลือกตั้งเดียว ซึ่งแม้อาจจะกระทบต่อความสุจริตและ
เที่ยงธรรมในผลการเลือกตั้งทั้งในระบบแบ่งเขตและระบบสัดส่วน (เดิม) หรือระบบ
49
บัญชีรายชื่อ (ปัจจุบัน) สำหรับคะแนนเสียงที่มาจากเขตเลือกตั้งนั้นๆ ก็ตาม หรือแม้
พรรคการเมืองจะได้ประโยชน์จากการที่มี ส.ส. มากขึ้นอีกหนึ่งหรือสองคนก็ตาม กับอีก
ด้านหนึ่งคือ ผลกระทบที่มีต่อสิทธิเสรีภาพของบุคคล คือ นิติบุคคลพรรคการเมืองที่
ต้องถูกยุบไป และบุคคลต่างๆ ที่ประกอบกันเข้าเป็นสมาชิกพรรคการเมืองซึ่งต้องถูกยุบ
กลุ่มทางการเมืองไป ทั้งๆ ที่สมาชิกเหล่านั้นมิได้กระทำผิดและมิได้มีหน้าที่ในการ
ควบคุมมิให้ผู้สมัครของพรรคกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้งแล้ว จะเห็นได้ว่า เป็นการ
50
บังคับใช้กฎหมายที่รุนแรงเกินไป ไม่ได้สัดส่วนกับพฤติการณ์และความเกี่ยวข้องกับ
กระทำความผิด
3.3 การตีความให้กรรมการบริหารพรรคมีความรับผิด
ในการกระทำของบุคคลอื่น โดยไม่อาจโต้แย้งเป็นอย่าง
อื่นได้นั้น ไม่สอดคล้องกับหลักความรับผิดเฉพาะ
บุคคลผู้กระทำ
ด้วยเหตุที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยวางหลักไว้ว่า เมื่อมีกรณีต้องยุบ
พรรคการเมืองตามมาตรา 237 วรรคสองของรัฐธรรมนูญ และมาตรา 103 วรรคสอง
ของกฎหมายเลือกตั้งแล้ว ย่อมส่งผลให้หัวหน้าพรรคและกรรมการบริหาร
พรรคการเมืองนั้นถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งตามไปด้วย เพราะถือว่าเป็นบทบังคับ
51
เด็ดขาดที่ศาลรัฐธรรมนูญไม่อาจวินิจฉัยเป็นอย่างอื่นได้ ดังนั้น จึงจำเป็นต้องพิเคราะห์
49 คดีพรรคมัชฌิมาธิปไตย – กกต. สั่งงดการประกาศผลการเลือกตั้งในเขตเลือกตั้งที่ 1 จังหวัดปราจีนบุรี
และเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งผู้สมัคร 1 รายคือ นายสุนทร วิลาวัลย์; คดีพรรคชาติไทย – กกต. สั่งงดการประกาศผล
การเลือกตั้งในเขตเลือกตั้งที่ 1 จังหวัดชัยนาท และเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของผู้สมัคร 2 รายคือ นายมณเฑียร และ
นางนันทนา สงฆ์ประชา; คดีพรรคพลังประชาชน – ศาลฎีกาสั่งให้มีการเลือกตั้งใหม่ในเขตเลือกตั้งที่ 3 จังหวัด
เชียงรายของผู้สมัคร 2 รายคือ นายยงยุทธ และนางสาวละออง ติยะไพรัช แต่ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งเฉพาะ
นายยงยุทธ ซึ่งเป็นผู้กระทำความผิดเท่านั้น; โปรดดู คดีพรรคชาติไทย, เรื่องเดิม, น. 80 – 84; คดีพรรคมัชฌิมา-
ธิปไตย, เรื่องเดิม, น. 2 – 3; คดีพรรคพลังประชาชน, เรื่องเดิม, น. 2 – 5.
50 กฎหมายพรรคการเมือง มาตรา 18 วรรคสอง กำหนดให้คณะกรรมการบริหารพรรคการเมืองมีหน้าที่
ต้องควบคุมพฤติกรรมของผู้สมัครของพรรคมิให้กระทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง แต่มิได้กำหนดหน้าที่นี้ไว้แก่สมาชิก
ทั่วไปของพรรคการเมือง
51 คดีพรรคชาติไทย, เรื่องเดิม, น. 100; คดีพรรคมัชฌิมาธิปไตย, เรื่องเดิม, น. 19; คดีพรรคพลังประชาชน,
เรื่องเดิม, น. 26.