Page 26 - kpi10607
P. 26
ฝ่าวิกฤต สร้างโอกาส บทบาทท้องถิ่นไทย
2
ธุรกิจไปจนถึงแวดวงการเมือง โดยที่คนในให้ความรู้สึกอบอุ่นเหมือนกับคนในครอบครัว แต่คนนอกให้ความ
รู้สึกอันตราย สกปรกและเป็นสิ่งน่ากลัว เพราะคนญี่ปุ่นถือว่าสิ่งไม่คาดคิดหรือสิ่งไม่ดีอาจจะเกิดขึ้นได้
นอกบ้าน สถาบันพระปกเกล้า
ความรู้สึกเรื่องคนในและคนนอกนั้น เป็นแนวคิดที่ผู้ใหญ่ใช้สอนลูกหลานและสมาชิกในครอบครัวให้
กลัวคนภายนอกและเชื่อฟังเฉพาะคนใน ซึ่งนอกจากพฤติกรรมของคนญี่ปุ่นที่ขึ้นอยู่กับแนวคิดเรื่องคนในและ
คนนอกแล้ว ความแตกต่างระหว่างพฤติกรรมสาธารณะและความรู้สึกที่แท้จริง ยังทำให้คนญี่ปุ่นมีความรู้สึก
ปฏิบัติตัวต่อคนนอกกลุ่มต่างไปด้วย
ในเรื่องการรวมพลังกลุ่มนั้น จากการศึกษาประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น พบว่า ญี่ปุ่นมีการรวมพลังกันเป็น
ช่วง ๆ กล่าวคือ ช่วงเวลาใดที่ญี่ปุ่นต้องการนำความรู้จากต่างประเทศเข้ามาในประเทศ รัฐบาลจะสร้างคำขวัญ
เพื่อเตือนสติประชาชนให้รักษาความเป็นญี่ปุ่นและรวมพลังของกลุ่ม และเรียนรู้ด้วยจิตวิญญาณญี่ปุ่นเท่านั้น
ญี่ปุ่นจึงมีแนวคิดอยู่ 2 แนวคิดที่ใช้ในช่วงการรับอารยธรรมและความเจริญจากต่างประเทศ ได้แก่
1. แนวคิดวะกอน คันซะอิ หมายถึง ความรู้จีนด้วยจิตวิญญาณญี่ปุ่น แนวคิดนี้กล่าวถึงอุดมการณ์ใน
การเรียนรู้ทางเทคนิคจากจีน แต่การเรียนรู้นั้นต้องเข้ากับประเพณีทางวัฒนธรรมที่สืบ ๆ ต่อกันมาของญี่ปุ่นได้
2. แนวคิดวะกอน โยะซะอิ เป็นแนวคิดในสมัยเมจิ แนวคิดนี้กล่าวถึงจิตวิญญาณญี่ปุ่นด้วย
เทคโนโลยีตะวันตก อุดมการณ์ของการนำความรู้และเทคโนโลยีจากตะวันตกมาใช้และดัดแปลงให้เข้ากับ
ประเพณีพื้นเมืองของญี่ปุ่น
ช่วงที่ญี่ปุ่นรับวัฒนธรรมจีนและเทคโนโลยีตะวันตกนี้เอง ญี่ปุ่นได้สร้างจิตสำนึกในการรักษาเอกลักษณ์
ความเป็นญี่ปุ่น ขณะเดียวกัน หากญี่ปุ่นเห็นชาวต่างประเทศมองญี่ปุ่นในทางไม่ดี ญี่ปุ่นจะพยายามทำทุกวิธีใน
การลบภาพไม่ดี เพราะญี่ปุ่นไม่ต้องการให้ติดภาพลบเกี่ยวกับคนและประเทศญี่ปุ่น จิตวิญญาณจึงเป็นคำที่
กล่าวถึงค่อนข้างมาก แต่ไม่มีการจำกัดขอบเขตความหมายในการใช้อย่างชัดเจนและถูกปลูกฝังจนกลายเป็น
อุดมการณ์ของสังคม ซึ่งจิตวิญญาณเป็นโครงสร้างภายในของวัฒนธรรมที่มีทั้งจริยธรรม กฎ จารีตประเพณี
และค่านิยมทั้งที่เป็นจิตสำนึกและสามัญสำนึกของคน จิตวิญญาณจึงเป็นสิ่งที่ถ่ายทอดจากวัฒนธรรมหนึ่งไปสู่
อีกวัฒนธรรมได้น้อยมากและคนญี่ปุ่นเชื่อว่าเป็นสิ่งที่เข้าใจยากสำหรับคนภายนอก
จากที่กล่าวมาแล้วว่า สังคมญี่ปุ่นประกอบด้วยกลุ่มองค์กรตั้งแต่ระดับครอบครัว ชุมชน บริษัท ไปจน
รัฐซึ่งเป็นกลุ่มระดับชาติ องค์กรเหล่านี้ไม่ว่าจะระดับเล็กหรือใหญ่การให้ความสำคัญอยู่ที่ความเป็นกลุ่มมาก
กว่าความเป็นปัจเจกบุคคล เมื่อความสำคัญอยู่ที่กลุ่ม กลุ่มจึงมีการนำแนวคิดและวิธีการต่าง ๆ ที่มีอยู่ใน
สังคม เช่น การจัดลำดับขั้นสูงต่ำภายในกลุ่ม ความกลมเกลียวภายในกลุ่ม ระเบียบวินัย กฎเกณฑ์ พันธะ
หน้าที่มีอยู่ในสังคมที่ต้องตอบแทนและพึ่งพากัน การควบคุมทางสังคมภายในกลุ่ม มาใช้เพื่อเสริมสร้างให้กลุ่ม
อยู่ได้อย่างมีระเบียบและมีประสิทธิภาพ ส่วนรัฐใช้การศึกษา ศาสนา และกลุ่มต่าง ๆ เป็นตัวควบคุมให้สังคม
เป็นไปในทิศทางเดียวกับที่รัฐต้องการ
อย่างไรก็ตาม การที่สังคมญี่ปุ่นให้ความสำคัญแก่กลุ่มนั้นมิได้หมายความว่าสังคมญี่ปุ่นไม่มี
ความขัดแย้งและไม่มีความเป็นปัจเจกชนนิยมหลงเหลืออยู่ แต่ความเป็นกลุ่มนั้นหมายถึงการทำงานอะไรก็ตาม
ที่ทุกคนต้องทำร่วมกัน เพราะสังคมญี่ปุ่นไม่ได้ให้การยอมรับกับบุคคลที่ทำงานประสบความสำเร็จด้วยความ