Page 25 - kpi10607
P. 25
ฝ่าวิกฤต สร้างโอกาส บทบาทท้องถิ่นไทย
2 อิสระในการพูดและการวิจารณ์ แต่ต้องอยู่บนฐานของการเคารพนับถืออย่างแท้จริงต่อองค์จักรพรรดิในฐานะ
สถาบันพระปกเกล้า เป็นสัญลักษณ์และเป็นผู้ที่ทำให้ประเทศรวมเป็นหนึ่งเดียวกันได้
การวางพื้นฐานในสังคมญี่ปุ่นมีมาตั้งแต่ประวัติศาสตร์สมัยเจ้าชายโฌโตกุ (Shotoku ค.ศ. 574-622)
ซึ่งมีการตรารัฐธรรมนูญ 17 ข้อ หนึ่งใน 17 ข้อเป็นเรื่องเกี่ยวกับความกลมเกลียว แนวคิดเรื่องความกลม
เกลียวจึงเป็นกลไกทางสังคมของญี่ปุ่นที่ใช้ในการรวมคนให้เป็นหน่วยเดียวกันโดยอาศัยการประนีประนอม
และหลีกเลี่ยงความขัดแย้ง ความกลมเกลียวกันนี้มีส่วนช่วยลดความขัดแย้งภายในกลุ่มและเสริมสร้างความ
สัมพันธ์ภายในกลุ่มให้ดีขึ้น คนญี่ปุ่นจึงพยายามปลูกฝังคนรุ่นใหม่ให้เห็นความสำคัญของความกลมเกลียว ซึ่ง
ดูได้จากการอบรมสั่งสอนของพ่อแม่และครู เด็ก ๆ ถูกสอนตั้งแต่เล็กว่าเด็กที่โตกว่าต้องยอมเด็กที่อายุไม่โต
พอที่จะเข้าใจได้ ผู้ใหญ่สอนให้เด็กทำถูกต้องตามมารยาท เพื่อให้เด็กประพฤติถูกต้องมากกว่าประพฤติเพื่อได้
รับการสรรเสริญเยินยอหรือเพื่อหลีกเลี่ยงการลงโทษ
แนวคิดเรื่องความกลมเกลียวภายในกลุ่ม คนญี่ปุ่นถือเป็นแนวคิดที่ต้องมีทัศนคติของการร่วมมือและ
การยอมรับบทบาททางสังคม ถ้าคนในกลุ่มเข้าใจพันธะส่วนตัวที่ตนต้องปฏิบัติและเข้าใจสถานการณ์ของ
คนอื่นแล้ว ทุกคนในกลุ่มก็ได้รับประโยชน์เหมือนกันหมด (ส่วนนี้คิดว่าน่าจะคล้ายกับเรื่องพื้นที่สาธารณะกับ
พื้นที่ส่วนตัวไร้เส้นแบ่งของสังคมในชนบทไทย) ดังนั้น ในการตัดสินใจกระทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งที่เกี่ยวข้องและมี
ความสำคัญต่อกลุ่ม ทุกคนจะตัดสินใจโดยคำนึงถึงความคิดของคนอื่นมากกว่ายึดถือความเชื่อและความคิด
เห็นของตน โดยคิดว่าการเอาใจเขามาใส่ใจเราเป็นการหลีกเลี่ยงการทำร้ายความรู้สึกของผู้อื่น ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญ
ยิ่งกว่าการแสดงความคิดเห็นของตนเองอย่างตรงไปตรงมา คนญี่ปุ่นจึงถูกมองว่ามีค่านิยมพิเศษในเรื่องการ
นึกถึงซึ่งกันและกัน การเป็นคนที่รู้จักผ่อนหนักผ่อนเบา การมีความอ่อนไหวต่อความรู้สึกของคนอื่น และการมี
ความเห็นอกเห็นใจคนอื่น นอกจากนี้ ยังมีการช่วยกันหาข้อมูลให้กลุ่ม มีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเพื่อ
หามติร่วม การแลกเปลี่ยนความคิดเห็นดังกล่าวทำให้ความรู้สึกและความสัมพันธ์ระหว่างคนในกลุ่มดีขึ้น
ทั้งยังเปิดโอกาสให้รับฟังความคิดเห็นที่แตกต่างของสมาชิก และสิ่งที่ทำให้ความกลมเกลียวยังคงอยู่ต่อไปได้
คือ พันธะหน้าที่ต่าง ๆ ที่มีต่อครอบครัว ต่อตระกูล และต่อประเทศของตน นั่นก็คือ อน กิริและนินโจ
4
3
นั่นเอง
คนญี่ปุ่นตีความพฤติกรรมถูกผิดของคนในแง่ของพันธะหน้าที่มากกว่าด้านศีลธรรม พันธะหน้าที่เป็น
กฎระเบียบของระบบเก่าในสังคมญี่ปุ่นที่มีมาก่อนกฎหมายสมัยใหม่ พันธะหน้าที่ได้รับอิทธิพลทั้งแนวคิดและ
แนวปฏิบัติมาจากลัทธิขงจื้อ ซึ่งพันธะหน้าที่ต่าง ๆ ที่มีอยู่ในสังคมญี่ปุ่นนี้เองที่ทำให้ญี่ปุ่นถูกมองว่าเป็นสังคม
ต่างตอบแทนและเป็นสังคมของการพึ่งพา
นอกจากนี้ สังคมญี่ปุ่นยังมีการจัดลำดับชั้นภายในกลุ่มชุมชน ภายในกลุ่มองค์กร และภายในครอบครัว
การจัดลำดับชั้นภายในกลุ่มทำให้เกิดการแบ่งกลุ่มคนออกเป็นคนในและคนนอกซึ่งมีอยู่ในทุกวงการตั้งแต่กลุ่ม
3 อน - เป็นพันธะหน้าที่ที่ติดตัวมาตั้งแต่เกิดและเป็นค่านิยมที่ทำให้ญี่ปุ่นสามารถรักษาความเป็นระเบียบ
ทางสังคม เป็นพันธะที่สร้างความสัมพันธ์ต่าง ๆ ภายในสังคมให้เกิดได้อย่างต่อเนื่อง เป็นพันธะที่ทั้งสร้างและสาน
ความผูกพันให้อยู่ต่อไปได้
4 กิริและนินโจเป็นแนวคิดและแนวปฏิบัติที่ทำให้ปัจเจกชนทำหน้าที่ได้ถูกต้องตามบรรทัดฐานของสังคม
และเป็นตัวเชื่อมโยงปัจเจกชนให้เข้ากับผู้อื่น