Page 44 - kpiebook67036
P. 44

43





                  การปกครองที่อ�านาจอยู่ที่คนๆ เดียว) กับการปกครองโดยให้ความส�าคัญต่อรัฐธรรมนูญ (constitutionalism)

                  โดยน�าเสนอภาพของ Torgny the Lawspeaker ในฐานะที่เป็นตัวแบบอุดมคติของนักต่อสู้เพื่อสภาสวีเดน

                  มาตั้งแต่ศตวรรษที่สิบเอ็ด และการปกครองของสวีเดนตั้งแต่ศตวรรษที่สิบเจ็ดมีฐานอยู่ที่การเป็นตัวแทน
                  ของประชาชน (popular representation) และเป็นจุดเริ่มต้นของวิวัฒนาการระบอบรัฐสภาสมัยใหม่
                  ที่พัฒนาไปสู่ “อ�านาจอธิปไตยปวงชน” (popular sovereignty) และ “ประชาธิปไตย” ในยุคแห่งเสรีภาพ

                  (the Age of Liberty) ในศตวรรษที่สิบแปด แต่พัฒนาการที่เข้มข้นของระบบรัฐสภานิยมของประชาชน

                  ชาวสวีเดน (parliamentarism of the Swedish people) ได้ถูกท�าลายลงโดยการรัฐประหารของ Gustav
                  III ในปี ค.ศ. 1772  109


                          ต่อมาพวกสังคมประชาธิปไตย (social democrats) ทั้งฝ่ายประนีประนอมและหัวรุนแรงได้น�า
                  การตีความประวัติศาสตร์ในแนวเสรีนิยมที่ให้ภาพของการวิวัฒนาการมาตั้งแต่ยุคโบราณไปสู่เป้าหมายของ

                  การปกครองอธิปไตยปวงชนและประชาธิปไตย (teleological liberal history) ของ Lagerroth ไปขยายผล
                  ให้แพร่หลายกว้างขวาง ดังนั้น ในสายตาของ Pasi Ihalainen ถือได้ว่าการตีความประวัติศาสตร์ของ

                  Lagerroth จึงเป็นขุมอุดมการณ์ที่สนับสนุนการตีความ “อดีตของชาติ” สวีเดนไปในทางที่พวกเขาต้องการ
                  นั่นคือ การปกครองแบบสังคมประชาธิปไตย (social democracy) นั้นเป็นรากฐานของความเป็นสวีเดน

                  มาตั้งแต่ยุคก่อนประวัติศาสตร์  110


                          ต่อมาหลังจากเกิดการปฏิวัติรัสเซีย (the Russian Revolution) รัฐสภาสวีเดน (the Riksdag)
                  ได้อภิปรายถกเถียงเกี่ยวกับการปฏิรูประบบการเลือกตั้งที่สิทธิประชาชนไม่เท่าเทียมกัน ที่ด�ารงอยู่มา

                  เป็นเวลานาน นั่นคือ สตรีสวีเดนและชนชั้นอื่นๆ ยังไม่มีมีสิทธิ์เลือกตั้ง Hjalmar Branting ประธาน
                  พรรคสังคมประชาธิปไตยผู้ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากการปฏิวัติรัสเซีย ได้ชี้เห็นถึงความเชื่อมโยงระหว่างสภา

                  ตามแบบของเยอรมันนิคในยุคกลางกับประชาธิปไตยในทศวรรษ 1910 โดยหลักฐานของความพยายาม
                  เชื่อมโยงดังกล่าวปรากฎให้เห็นในภาพบนฝาผนังของสภาล่าง (the Second Chamber) ที่วาดขึ้นในปี

                  ค.ศ. 1913 อันเป็นภาพที่น�าเสนอความเป็นประชาธิปไตยและการมีตัวแทนของสวีเดนในอดีตกาล นั่นคือ
                  เรื่องราวของค�ากล่าวของ Torgny the Lawspeaker ที่มีต่อกษัตริย์ Olof Skötkonung ในที่ประชุม ting

                  ที่อุปซาลาในราวปี ค.ศ. 1000 เห็นได้ว่า ความคิดเกี่ยวกับจารีตการปกครองแบบรัฐสภาของสวีเดน
                  ที่มีมาตั้งแต่สมัยโบราณได้ถูกถ่ายทอดลงไปในการวาดภาพประวัติศาสตร์ที่ถือว่าเป็นแนวคิดแบบโรแมนติก

                  ชองชาติ (typical national romanticism) ที่สร้างภาพอดีตของชาติให้ดูดีและเป็นอุดมคติ   ขณะเดียวกัน
                                                                                               111
                  เรื่องราวของ Torgny ก็ยังถูกใช้โดยพวกฝ่ายขวาด้วยในการต่อต้านสิทธิ์เลือกตั้งทั่วไปและระบอบรัฐสภานิยม


                  109   Pasi Ihalainen, “The 18 -Century Traditions of Representation in a New Age of Revolution: History Politics
                                        th
                  in the Swedish and Finnish parliaments, 1917-1919,” Scandinavian Journal of History, Vol. 40, 1 (2015): 73.
                  110   Pasi Ihalainen, “The 18 -Century Traditions of Representation in a New Age of Revolution: History Politics
                                        th
                  in the Swedish and Finnish parliaments, 1917-1919,” Scandinavian Journal of History, Vol. 40, 1 (2015): 73.
                  111   Pasi Ihalainen, “The 18 -Century Traditions of Representation in a New Age of Revolution: History Politics
                                        th
                  in the Swedish and Finnish parliaments, 1917-1919,” Scandinavian Journal of History, Vol. 40, 1 (2015): 73.
   39   40   41   42   43   44   45   46   47   48   49