Page 49 - kpiebook67036
P. 49

48      ประเพณีการปกครองของสวีเดน: สภาท้องถิ่น (ting), สิทธิ์ในการเลือกพระมหากษัตริย์ และเสรีภาพ
                    และปกครองตนเองของชาวนา (the Many)




             ดินแดนต่างๆ และที่ประชุมของที่ต่างๆ นี้ได้มีส่วนร่วมแล้วในการเลือกตั้งในเขต Uppland เมื่อ eriksgata

             เกิดขึ้น แต่เงื่อนไขอาจเปลี่ยนแปลงระหว่างการประมวลกฎหมาย Upplandslagen และ Sodermannalagen

             120  ขณะเดียวกัน ค�าว่า gata หมายถึงเส้นทางระยะสั้น บางทีเดิมอาจหมายถึง การเดินทางผ่าน Uppland,
             Tiundaland, และ Fjadrundaland แม้ว่าควรจะสังเกตว่า ไม่มีการกล่าวถึง folklandting ใน Fjadrundaland
             ในกฎหมาย Upplandslagen หรือแหล่งอื่นใด ตามกฎหมาย Upplandslagen หลังจากการมอบต�าแหน่ง

             ที่อุปซาลาแล้ว กษัตริย์พระองค์ใหม่จะเดินทางไปยัง Sodermanland, Ostergotland, Smaland,
             Vastergotland, Narke, Vastmanland, Uppland และเดินทางกลับอุปซาลา และในแต่ละที่ พระองค์

             จะท�าสัตย์ปฏิญาณที่จะเคารพกฎหมายท้องถิ่นและรักษาความสงบเรียบร้อยของอาณาจักร พระองค์
             จะมีผู้ติดตามจากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่ง ท�าหน้าที่ปกป้องคุ้มกันหรือท�าหน้าที่เป็นตัวประกัน (grub and

             gisslan) กฎหมาย Ostgotalagen ก�าหนดว่า กษัตริย์จะจัดเก็บภาษีพิเศษ (inlanding) จ�านวนสี่สิบมาร์ก
             จากแต่ละ härad (เขตอ�านาจศาล) ใน Vastgotalagen ได้มีการกล่าวถึงภาษีที่เรียกว่า “ภาษีแห่งความภักดี”

             เป็นไปได้ว่า พิธีเดินทางดังกล่าวเกิดขึ้นในศตวรรษที่สิบสอง และในการเสด็จพระราชด�าเนินดังกล่าวนี้
             ก็ถือว่าเป็นการบริหารราชการแผ่นดินของกษัตริย์ไปในตัวทันที นั่นคือ ถือเป็นการยืนยันในการให้

             ความชอบธรรมของการเป็นกษัตริย์ และมีความชอบธรรมในการระดมทรัพยากรต่างๆ จากผู้ใต้ปกครอง
             ของพระองค์ อันได้แก่ การได้รับการยอมรับจากอภิชน ไม่ว่าจะในรูปของอาหารและที่พัก และจะมีการให้

             ตัวประกันเป็นสัญลักษณ์ด้วย  121


                      อย่างไรก็ตาม ไม่มีบันทึกเกี่ยวกับพิธีเดินทาง (eriksgata) นี้ในช่วงที่ Magnus Ladulas (ค.ศ. 1275)
             ขึ้นครองราชย์ หรือในกรณีของ Birger Magnusson (ค.ศ. 1290) ดังนั้นมีความเป็นไปได้ว่า พิธีดังกล่าวนี้

             อาจจะไม่ได้เกิดขึ้นในศตวรรษที่สิบสาม แต่มาฟื้นฟูหรือถูกสร้างขึ้นส�าหรับการขึ้นครองราชย์ของ Magnus
             Eriksson (ค.ศ. 1319) ตามกฎหมาย Upplandslagen หลังจากที่พระองค์เสด็จกลับจากพิธีเดินทาง กษัตริย์

             จะได้รับสวมมงกุฎในโบสถ์แห่งอุปซาลาโดยพระอัครสังฆราช (archbishop) และเหล่าพระสังฆราช (bishop)
             ที่จะท�าให้การมอบต�าแหน่งเสร็จสิ้นสมบูรณ์และให้กษัตริย์มีความชอบธรรมในการครอบครองทรัพย์สิน

             ในสองกรณี อันได้แก่ การรับค่าปรับจากคนร้ายในกรณีที่ไม่สามารถหาตัวผู้ถูกละเมิดได้ (dulgadrap) และ
                                                                                                     122
             การถือครองทรัพย์สินของคนต่างถิ่นที่มาเสียชีวิตในอาณาจักรและไม่สามารถหาทายาทได้ (danaarv)
             และมีสิทธิ์ที่จะพระราชทานที่ดินหรืออสังหาริมทรัพย์อันได้แก่ ปราสาทแก่บรรดาผู้ที่ถวายการรับใช้
             พระองค์   ส่วนเงื่อนไขในการเลือกกษัตริย์และการสาบานตน จะยึดถือกฎหมายที่เรียกว่า edsöre
                      123
             law   ตามที่ได้มีการตกลงกันระหว่างกษัตริย์และพวกอภิชนในกฎหมาย Upplandslagen การมอบ
                  124

             120   Philip Line, Kingship and State Formation in Sweden 1130-1290 (Leiden: Koninklijke Brill NV, 2007), p. 198.
             121   Philip Line, Kingship and State Formation in Sweden 1130-1290 (Leiden: Koninklijke Brill NV, 2007), p. 198.
             122   Erik Gustaf Geijer, The History of the Swedes, translated by John Hall Turner, (1845) p. 82n. https://play.
             google.com/books/reader?id=5PTgYrqSWdAC&pg=GBS.PA6&hl=en
             123   Philip Line, Kingship and State Formation in Sweden 1130-1290 (Leiden: Koninklijke Brill NV, 2007),
             p. 198.
             124   ค�าว่า edsöre มาจากภาษาสวีดิช ed หมายถึง ค�าสัตย์สาบาน และค�าว่า -söre หมายถึง การสาบาน edsöre
   44   45   46   47   48   49   50   51   52   53   54