Page 61 - kpiebook67035
P. 61
สถาบันพระปกเกล้า
King Prajadhipok’s Institute
“บ้านเหนือไม่เข้าประชุม สุดท้ายเสียผลประโยชน์ ทำาไมถนนคนเดินไม่เดินจากบนไปล่าง
ทั้งที่เป็น one way นี่คือที่ไปที่มา พอวันนี้มีเรื่องธรรมนูญของเชียงคาน เป็นกฎกติกาที่จะดูแล
คนเชียงคานทั้งหมด ดังนั้น จึงเข้ามามีส่วนร่วม เพื่อไม่ให้เสียโอกาสอีก”
4.3.3 อุปสรรคในการดำาเนินงาน
อุปสรรคในการดำาเนินงาน เป็นข้อคำาถามเรื่องปัญหาและอุปสรรคในการดำาเนินกิจกรรม
ต่าง ๆ มีอะไรบ้าง พบว่า
กลุ่มผู้บริหารและเจ้าหน้าที่เทศบาล เห็นว่าปัญหาและอุปสรรคในการดำาเนินกิจกรรม
ต่าง ๆ เพื่อพัฒนาทุนทางวัฒนธรรมคือ ประชาชนไม่เชื่อถือนักการเมืองท้องถิ่น ทำาให้ไม่ได้รับ
ความร่วมมือจากประชาชนชาวเชียงคาน เนื่องจากโดยปกติคนเชียงคานไม่ค่อยให้ความเชื่อถือ
ต่อนักการเมืองท้องถิ่น แต่จะให้ความเชื่อถือต่อข้าราชการหรือคนภายนอกมากกว่า ทำาให้
การดำาเนินงานของเทศบาลอาจจะไม่รับความร่วมมือเท่าที่ควรและประชาชนไม่ให้ความสำาคัญ
“ทุนของนักการเมืองท้องถิ่นมีน้อย ความเชื่อถือไม่มี ดังนั้นต้องเอาข้าราชการส่วนภูมิภาค
ผู้ว่าราชการโยธาธิการและผังเมืองจังหวัด คณบดีคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัย
ขอนแก่น มาเล่าเรื่องสถาปัตยกรรมและทุนทางวัฒนธรรมให้คนในพื้นที่ฟัง”
รวมไปถึง ความร่วมมือของผู้ประกอบการที่เป็นคนภายนอกชุมชนความร่วมมือของผู้ประกอบการที่เป็นคนภายนอกชุมชน เนื่องจากคนภายนอก
จะให้ความสำาคัญกับการประกอบอาชีพมากกว่าและไม่มีความผูกพันในเชิงพื้นที่ กิจกรรมของ
ชุมชนจึงมักจะไม่ได้รับความร่วมมือจากกลุ่มคนเหล่านี้ ขณะเดียวกัน ความคิดเห็นที่แตกต่างกัน
ระหว่างคนเชียงคานและผู้ประกอบการที่เป็นคนภายนอกที่เข้ามาทำาธุรกิจในพื้นที่ยังเป็นปัญหา
และอุปสรรคอีกประการหนึ่ง กล่าวคือ คนในชุมชนมีวิถีชีวิตที่ปฏิบัติสืบทอดกันมา และมี
ความผูกพันต่อถิ่นฐานบ้านเกิดที่ต้องการทำาให้ทุนทางวัฒนธรรมของเชียงคานได้รับการอนุรักษ
และสืบสานให้ยั่งยืน ขณะที่คนภายนอกไม่ได้ให้ความสำาคัญกับเรื่องเหล่านี้ ทำาให้เกิดความขัดแย้ง
ระหว่างกันเรื่อยมา
“คนพื้นที่หรือนอกพื้นเพที่มาจากต่างถิ่น แล้วมาประกอบกิจการ แต่วิถีท้องถิ่นที่เชียงคาน
ที่มี ถ่ายทอดกันรุ่นสู่รุ่น เป็นวิถีท้องถิ่นที่สืบทอดกันมา เช่น ถ้ามีงานสีดำาหรืองานศพ จะจัดงาน
ที่บ้าน มีเครือญาติไปร่วมงานกัน แต่ผู้ประกอบการต่างถิ่นที่ไม่รู้ จะโวยวายว่าการจัดงานศพ
ที่บ้านทำาให้ขายของไม่ได้”
ประเด็นนี้สอดคล้องกับผู้ให้สัมภาษณที่กล่าวว่า คนที่มาขัดกติกาพื้นที่เชียงคานส่วนใหญ่
คือคนนอก เช่น ขับรถย้อนศร ขับรถเลขตองเข้ามาในพื้นที่ เปิดเครื่องเสียงเสียงดัง หรือตากผ้า
บริเวณราวถนนคนเดินชายโขง ทั้งที่เป็นที่สาธารณะ ซึ่งต้องมีการปรับปรุงกันเยอะกว่าจะทำาตาม
59