Page 35 - kpiebook67035
P. 35

สถาบันพระปกเกล้า
                                                          King Prajadhipok’s Institute


          (Model of participatory public policy process) ซึ่งมีองคประกอบที่เป็นปัจจัยเกื้อหนุน
          ต่อการจัดกระบวนการพัฒนานโยบายสาธารณะทั้งปัจจัยภายในและปัจจัยภายนอก กล่าวคือ
          ปัจจัยภายในที่เกิดจากคนภายในพื้นที่ ได้แก่ 1) ความเป็นหุ้นส่วนในการจัดเวที 2) ความร่วมมือ
          ของหน่วยรับนโยบาย 3) หน่วยรับข้อเสนอเชิงนโยบายเป็นผู้จัดการหลัก 4) ภาวะผู้นำาของ
          ผู้บริหารท้องถิ่น 5) หน่วยงานมีประเด็นสาธารณะที่จะพัฒนามาก่อน 6) ผู้เข้าร่วมเวทีสาธารณะ
          มีสัดส่วนพลเมืองที่อยู่ในระดับกระตือรือร้นเป็นส่วนใหญ่ 7) มีหน่วยงานเป้าหมายที่จะรับ
          ข้อเสนอนโยบาย ขณะที่ปัจจัยภายนอก ซึ่งเป็นปัจจัยที่เกิดจากคนภายนอกที่ส่งผลต่อ
          ความสำาเร็จของกระบวนการพัฒนานโยบายสาธารณะ ได้แก่ 1) กระบวนการจัดเวที จัดกิจกรรม
          การมีส่วนร่วมในพื้นที่ต่าง ๆ และมีประชาชนมาร่วม มีผู้เอื้อกระบวนการเพื่อเป้าหมายอย่างใด
          อย่างหนึ่ง และ 2) บทบาทขององคกรวิชาการ นอกจากปัจจัยภายในที่เกิดจากคนภายในพื้นที่แล้ว
          ในการพัฒนานโยบายสาธารณะและนำาเสนอนโยบายนั้นจะต้องมีเป้าหมายในการนำาเสนอชัดเจน
          ว่าจะเสนอต่อใครและหน่วยงานใดจะเป็นผู้ยอมรับประกาศเป็นนโยบายและนำาไปปฏิบัติ และ
          ปัจจัยภายนอกถือว่าเป็นปัจจัยเสริมหรือปัจจัยร่วมกับปัจจัยภายในตามที่ได้กล่าวมาข้างต้น
          หากการจัดกระบวนการพัฒนานโยบายสาธารณะแบบมีส่วนร่วมมีปัจจัยที่กล่าวมาทั้งปัจจัย
          ภายในและปัจจัยภายนอกจะช่วยทำาให้การดำาเนินการตามขั้นตอนต่าง ๆ ของกระบวนการ
          พัฒนานโยบายสาธารณะแบบมีส่วนร่วมสำาหรับดำาเนินการได้สำาเร็จถึงขั้นผลักดันไปสู่ขั้นนำา
          นโยบายไปปฏิบัติ
             2.6.2 การพัฒนานวัตกรรมชุมชนจากการมีส่วนร่วมของชุมชน
                 ถวิลวดี บุรีกุล และคณะ (2565) ได้ทำาการศึกษาวิจัยนวัตกรรมชุมชนเพื่อเสริมสร้าง
                                   ้
          ความเข้มแข็งและลดความเหลื่อมลำาเพื่อบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนหลังวิกฤตการณ
          COVID-19 กรณีศึกษา เทศบาลเมืองกระบี่ จังหวัดกระบี่ ผลการศึกษาที่สำาคัญคือ เมื่อชุมชน
          เผชิญกับภาวะวิกฤติ เช่น การแพร่ระบาดของ COVID-19 องคกรปกครองส่วนท้องถิ่นและชุมชน
          สามารถมีส่วนร่วมในการพัฒนานวัตกรรมชุมชนเพื่อนำานวัตกรรมนั้นมาใช้ประโยชนสำาหรับ
          คนในชุมชนได้ ด้วยกระบวนการวิจัยเชิงปฏิบัติการ ร่วมกันระดมความคิดเห็นค้นหาสิ่งที่ดี
          ที่มีอยู่ในชุมชน จัดทำาแผนปฏิบัติการเพื่อพัฒนานวัตกรรมของชุมชนในการส่งเสริมการท่องเที่ยว
          และออกแบบและพัฒนานวัตกรรมการสื่อสารของชุมชน ทำาให้เห็นว่านวัตกรรมเป็นผลที่เกิดขึ้น
          จากการสร้างความเปลี่ยนแปลงให้เกิดขึ้นกับชุมชน โดยเป็นการตัดสินใจและได้รับแรงสนับสนุน
          จากชุมชน ซึ่งทำาให้นวัตกรรมชุมชนมีความแตกต่างไปจากนวัตกรรมสังคมอื่น ๆ โดยมุ่งเน้น





                                                                        33
   30   31   32   33   34   35   36   37   38   39   40