Page 205 - kpiebook67020
P. 205

204  การศึกษาการป้องกันวิกฤตสังคมในอนาคต



               2. บทบาทของภาครัฐในการบริหารจัดการเครือข่ายภายใต้แนวคิด
        การบริหารกิจการบ้านเมือง (Governance)
               จากสภาพการณ์ที่เกิดขึ้นจากการปฏิรูประบบการบริหารงานของภาครัฐ ท�าให้

        สภาพสังคมไม่ได้มีเพียงบทบาทของภาครัฐเพียงฝ่ายเดียว และไม่สามารถแบ่งแยก

        ขอบเขตการแสดบทบาทระหว่างภาครัฐกับภาคส่วนอื่นออกจากกันได้อย่างชัดเจน
        จึงส่งผลให้กระบวนการบริหารงานภาครัฐเกิดการเปลี่ยนแปลงตามไปด้วย Anne
        Mette Kjaer อธิบายว่า ระบบการเมืองการปกครองอยู่ในสภาวะแตกกระจายออกเป็น

        ส่วนย่อย (Fragmentation of political systems) (Anne Mette Kjaer, 2004) ท�าให้

        ภาครัฐจ�าเป็นต้องปรับบทบาทของตนไปสู่การท�าหน้าที่ “การก�ากับควบคุมทิศทาง”
        (Steering) ในการบริหารกิจการบ้านเมือง โดยการแสดงบทบาทร่วมกันของ
        หลายภาคส่วน (John Pierre and B. Guy Peters, 2000) ในช่วงทศวรรษที่ 1980

        ซึ่งเกิดเปลี่ยนแปลงที่ส�าคัญในการบริหารงานของภาครัฐ เริ่มมีการน�าค�าว่า

        “การบริหารกิจการบ้านเมือง” (Governance) มาใช้ในความหมายที่มีนัยที่กว้าง
        ไปกว่าการใช้อ�านาจหน้าที่ของภาครัฐเพียงฝ่ายเดียวตามความหมายของค�าว่า
        “การปกครอง” (Government) แต่ค�าว่าการบริหารกิจการบ้านเมืองเป็นเรื่องที่

        เกี่ยวข้องกับบทบาทของตัวแสดงอื่น ๆ ในสังคมด้วย (Anne Mette Kjaer, 2004)

               เดิมทีกระบวนการท�างานของรัฐมีเอกภาพสูงภายใต้โครงสร้างการด�าเนินงาน

        ของระบบราชการ ซึ่งเป็นโครงสร้างแบบรวมศูนย์ แต่เมื่อเกิดการเพิ่มบทบาทให้
        ภาคส่วนอื่นเข้ามาท�างานแทนภาครัฐ ทั้งภาคเอกชน ภาคประชาสังคม รวมถึง

        หน่วยงานรัฐในรูปแบบใหม่ที่เป็นอิสระจากระเบียบวิธีปฏิบัติราชการ ท�าให้มีตัวแสดง
        ที่หลากหลายในพื้นที่สาธารณะ (Multi-level and Multi-sector governance)

        ดังนั้น จึงเกิดสภาพแตกกระจายของโครงสร้างการท�างานของรัฐ (Fragmentation)
        ที่ไม่สามารถสั่งการตามโครงสร้างการบังคับบัญชาได้อีกต่อไป แต่จะท�าอย่างไรเพื่อให้

        เกิดเอกภาพในการขับเคลื่อนนโยบายให้เป็นไปในทิศทางเดียวกันได้
   200   201   202   203   204   205   206   207   208   209   210