Page 62 - kpiebook67011
P. 62

61







                          ส�าหรับค�าจ�ากัดความแรกนั้น อาเรนดท์ให้ค�าจ�ากัดความของค�าว่าสาธารณะด้วยการผูกเรื่อง

                  ของการปรากฏ (appearance) เข้าไว้กับเรื่องของความเป็นจริง (reality) การปรากฏคือการที่เราถูกเห็น
                  หรือถูกได้ยินโดยผู้คนรอบกายที่นอกเหนือไปจากวงแคบ ๆ ของผู้คนรอบตัว การปรากฏขึ้นของผู้คนอื่น

                  ที่เข้ามาเห็นในสิ่งเดียวกับที่เราเห็นและได้ยินในสิ่งเดียวกับที่เราได้ยินคือการยืนยันถึงความมีอยู่จริงของ
                                            102
                  ตัวเราเองและโลกที่เราอยู่อาศัย  ในแง่นี้ ในเมื่อความเป็นจริงเป็นสิ่งที่ถูกสร้างสรรค์ขึ้นมาจากการปรากฏ
                  ที่ถูกเห็นหรือการที่ค�าพูดของเราได้รับการฟังจากผู้อื่น ความเป็นจริงจึงไม่สามารถที่จะถูกสร้างขึ้นมา
                  ได้ลอย ๆ หากแต่จ�าเป็นที่จะต้องมีพื้นที่หรือขอบเขตบางประการที่จะสามารถเข้ามารองรับการปรากฏของ

                  สิ่งต่าง ๆ ที่ถูกเห็นหรือถูกได้ยินนั้นได้ด้วย และส�าหรับอาเรนดท์แล้วพื้นที่ดังกล่าวนี้คือพื้นที่สาธารณะ
                  หรือขอบเขตสาธารณะ (public realm) อันเป็นพื้นที่หรือขอบเขตที่ผู้คนต่างเข้ามาสานสัมพันธ์หรือ

                  มีปฏิสัมพันธ์กันที่เหนือไปจากการปฏิสัมพันธ์ด้วยความจ�าเป็นหรือการปฏิสัมพันธ์กันตามสภาพบังคับ
                  อย่างการปฏิสัมพันธ์ของคนในครอบครัวนั่นเอง


                          พื้นที่สาธารณะเป็นพื้นที่ที่มีความส�าคัญมากในแง่ของการยืนยันในความมีอยู่จริงของผู้คน

                  หรือสิ่งอื่น ๆ แม้แต่ความคิดเห็นหรือความรู้สึกส่วนตัวที่เป็นนามธรรมที่สุดของเราเองก็สามารถ
                  กลายมาเป็นความจริงที่ปรากฏอยู่บนพื้นที่สาธารณะได้หากมันถูกแปรเปลี่ยนไปให้อยู่ในรูปร่าง
                                                                    103
                  หรือรูปแบบที่เหมาะสมกับการปรากฏในพื้นที่สาธารณะ  ไม่ว่าจะเป็นการแสดงออกผ่านงานศิลปะ
                  หรือการเล่าเรื่องราวก็ล้วนแต่เป็นการแปรความเป็นส่วนตัวที่เลื่อนลอยให้กลายเป็นความเป็นจริงที่จับต้อง

                  และรับรู้ได้โดยผู้คนทั่วไปได้ทั้งสิ้น เมื่อใดที่ความคิดความรู้สึกนั้นถูกลดความเป็นส่วนตัวลงเพียงพอ
                  ให้กลายเป็นสิ่งสามัญที่จะสื่อสารออกสู่ผู้คนอื่นให้เข้าใจ เมื่อนั้นมันย่อมกลายเป็นสิ่งที่ถูกพบเห็นหรือ
                  ได้ยินและกลายเป็นสิ่งที่มีอยู่จริงได้ในโลกสาธารณะ ภาษาจึงเป็นเครื่องมือหนึ่งที่ส�าคัญยิ่งในโลกสาธารณะ

                  เนื่องเพราะมันเป็นสิ่งที่สามารถแปรเปลี่ยนแม้แต่สิ่งที่เป็นนามธรรมอย่างที่สุดให้กลายเป็นสิ่งอันเป็น

                  รูปธรรมขึ้นมาได้


                          การยึดโยงระหว่างการถูกเห็นและถูกได้ยินและความเป็นจริงนี้ท�าให้ผู้คนที่ไม่สามารถแสดงตัวตน
                  หรือส่งเสียงให้ผู้คนอื่นได้รับรู้กลายเป็นสิ่งที่ไม่มีอยู่จริงส�าหรับผู้อื่น ลองพิจารณาถึงกรณีของชนกลุ่มน้อย
                  หรือกลุ่มชาติพันธุ์บางกลุ่มที่ข้อเรียกร้องของพวกเขาล้วนเป็นสิ่งที่ไม่ได้ถูกสนใจโดยผู้คนส่วนใหญ่ในสังคม

                  รัฐก็ท�าให้ปัญหาของพวกเขาที่เกิดขึ้นนั้นไม่ได้มีอยู่จริงบนโลกของผู้คนอื่นเช่นกัน ส�าหรับอาเรนดท์แล้ว

                  พื้นที่สาธารณะจึงเป็นพื้นที่ที่มีความจ�าเป็นและต้องถูกปกป้องไว้ให้มีเสรีภาพเพื่อเป็นหลักประกันได้
                  ในทางหนึ่งว่าเสียงของผู้คน


                          อาเรนดท์ยังให้ความหมายของค�าว่าสาธารณะไว้อีกประการหนึ่งคือ การให้ความหมายถึงการเป็น
                  “โลก” ที่มีหรือใช้ร่วมกันโดยมนุษย์ ค�าว่าโลกนี้ไม่ได้หมายถึงโลกในทางธรรมชาติหรือวิทยาศาสตร์

                  ธรรมชาติ หากแต่หมายถึงโลกในเชิงวัตถุที่ถูกสรรสร้างขึ้นมาร่วมกันระหว่างมนุษย์ เป็นโลกที่เชื่อมมนุษย์


                  102   Ibid., 50.
                  103   Ibid.
   57   58   59   60   61   62   63   64   65   66   67