Page 66 - kpiebook67011
P. 66
65
ส�าหรับอาเรนดท์แล้วสิ่งที่เป็นอันตรายต่ออ�านาจและเป็นสิ่งที่ล้มอ�านาจก็คือความรุนแรง
(violence) ซึ่งเป็นสิ่งที่ท�าลายได้ทั้งอ�านาจและความแข็งแกร่ง ลักษณะเฉพาะของความรุนแรงคือ
การมีลักษณะที่เป็นเครื่องมือของมัน เพราะมันเป็นสิ่งที่ถูกใช้เพื่อจุดมุ่งหมายที่สูงส่งกว่าหรือยิ่งใหญ่กว่า
ในแง่นี้ความรุนแรงจึงไม่มีธรรมชาติที่สามารถที่จะด�ารงอยู่ได้ในพื้นที่แห่งการปรากฏและขอบเขตของ
การเมืองเนื่องจากพื้นที่แห่งการปรากฏและการเมืองเป็นพื้นที่ที่ไม่มีใครทรงสิทธิเด็ดขาดและสามารถ
กะเกณฑ์ให้เกิดอะไรขึ้นได้ การใช้เครื่องมือเป็นลักษณะเฉพาะที่ส�าคัญประการหนึ่งของพื้นที่ทางสังคม
อันเป็นพื้นที่ที่แม้จะประกอบไปด้วยผู้คนมากมายหากแต่ก็ไม่มีความหลากหลายและมุมมองที่แตกต่าง
สังคมจึงเป็นพื้นที่ที่สามารถถูกวางเป้าหมายและวางแผนที่จะไปถึงเป้าหมายนั้นได้โดยอาศัยเครื่องมือ
บางประการที่จะน�าไปสู่การบรรลุเป้าหมายนั้น ในแง่นี้ความรุนแรงจึงมิอาจมีพื้นที่อยู่ในขอบเขต
ทางการเมืองและพื้นที่ของการปรากฏได้ และเมื่อใดที่มันถูกใช้ในพื้นที่การเมืองจนเกิดผลส�าเร็จ เมื่อนั้น
ย่อมหมายถึงการล่มสลายของพื้นที่ทางการเมืองและการสูญสลายไปของอ�านาจ และนั่นย่อมหมายถึง
เสรีภาพ ความเสมอภาค และความเป็นพหุลักษณ์ก็ย่อมจะสูญหายไป จนกว่าผู้คนจะกลับมารวมตัวกันได้
อีกครั้งและก่อให้เกิดพื้นที่ของการปรากฏอันมีศักยภาพให้ผู้คนต่างแสดงตนได้ เมื่อนั้นย่อมหมายความว่า
อ�านาจได้กลับคืนมาสู่ผู้คนอีกครั้งหนึ่ง และนี่เป็นสิ่งที่ชี้ให้เห็นว่าแม้ว่าความรุนแรงอาจจะเป็นสิ่งที่ท�าลาย
อ�านาจได้ หากแต่มันก็ไม่สามารถที่จะทดแทนอ�านาจได้แต่อย่างใด 110
และในเมื่อกิจกรรมอย่างการแสดงตนเป็นกิจกรรมที่ไม่สามารถที่จะคาดเดาถึงผลลัพธ์หรือ
วางเป้าหมายและใช้เครื่องมือใดไว้ก่อนล่วงหน้าได้ คุณค่าของการแสดงตนจึงไม่ได้อยู่ที่ผลลัพธ์
จากการแสดงตนนั้น ไม่เหมือนระบบการผลิตหรือการสร้างงานที่มุ่งสนใจให้ได้มาซึ่งผลผลิตที่มี
ความชัดเจนแน่นอนตามที่ได้วางแผนไว้ก่อนล่วงหน้า การมุ่งสนใจที่กระบวนการของการแสดงตน
เป็นลักษณะเฉพาะอีกประการหนึ่งของการแสดงตนเนื่องจากกระบวนการของมันไม่เพียงจะไม่ถูกดึง
เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของผลลัพธ์ที่เฉพาะเจาะจงใด ๆ ได้หากแต่จะสามารถขยายออกไปเป็นผลกระทบได้
อย่างไม่มีที่สิ้นสุด การแสดงตนจึงไม่เหมือนกับงานในขอบเขตทางสังคมที่ซึ่งกระบวนการของการผลิต
จะถูกดูดรวมไปเป็นส่วนหนึ่งของผลผลิต และเหตุผลที่ไม่สามารถมีผู้ใดควบคุมพื้นที่ของการปรากฏและ
ขอบเขตทางการเมืองได้อย่างผูกขาดและไม่สามารถที่จะคาดเดาถึงผลที่ตามมาของการแสดงตนได้ก็
เนื่องมาจากว่าการแสดงตนเองนั้นเป็นสิ่งที่ไม่มีจุดสิ้นสุดในตัวของมันเอง ไม่มีผลลัพธ์ท้ายสุดใดให้เห็น
111
การแสดงตนครั้งหนึ่งอาจมีผลกระทบต่อการแสดงตนของใครอีกคนหนึ่งไปเรื่อย ๆ อย่างไม่มีที่สิ้นสุด
และนั่นจึงน�าไปสู่ลักษณะเฉพาะอีกประการหนึ่งของการแสดงตนก็คือ การไม่สามารถย้อนกลับคืนได้
(irreversibility) ในขณะที่งานเป็นสิ่งที่อาจย้อนกลับคืนได้ด้วยการท�าลายผลลัพธ์ของกระบวนการงานนั้น
บ้านหรือรถยนต์ที่ถูกสร้างผิดแบบหรือไม่ถูกใจเพียงแค่ท�าลายทิ้งมันก็ไม่สามารถปรากฏให้เห็นได้อีก
หากแต่การแสดงตนนั้นครั้นได้ถูกเห็นและปรากฏไปแล้วต่อหน้าผู้คนภายในข่ายใยของความสัมพันธ์ผู้คน
มันก็ไม่สามารถที่จะถูกท�าลายหรือแก้ไขได้อีก เนื่องจากว่าผลกระทบของมันนั้นได้ไปไกลเกินกว่าที่จะหยุดยั้ง
ไว้เสียแล้วจากการปฏิสัมพันธ์โต้ตอบจากผู้อื่น
110 Ibid., 202.
111 Ibid., 233.