Page 71 - kpiebook67011
P. 71

70      ประชาธิปไตยในความคิดของฮันนาห์ อาเรนดท์







                      อาเรนดท์เลือกที่จะวางการให้อภัยให้อยู่ตรงข้ามกับการแก้แค้น อันเป็นการกระท�าที่เธอกล่าวว่า

             อยู่ในรูปแบบของการโต้ตอบหรือการกระท�ากลับต่อการละเมิดที่เกิดขึ้น แต่ไม่ใช่การพยายามที่จะท�าให้
             วงจรของผลลัพธ์ของการกระท�านั้นจบลง ทั้งยังเป็นการผูกผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกฝ่ายไว้กับกระบวนการ

             ที่ต่อเนื่องขยายไปไม่จบสิ้นนั้นด้วย  ยิ่งไปกว่านั้นเธอยังเห็นว่า การแก้แค้นยังเป็นการกระท�ากลับที่มี
             ลักษณะที่เป็นไปอย่างธรรมชาติและเป็นอัตตาณัติ เป็นสิ่งที่ถูกคาดเดาได้ว่าจะต้องเกิดขึ้น ตรงกันข้ามกับ

             การให้อภัยที่เป็นการกระท�าที่คาดหวังไม่ได้ว่าจะเกิดขึ้น เป็นการกระท�าที่เกิดสิ่งใหม่ๆ และไม่ได้ผูกอยู่
             ใต้เงื่อนไขจากการกระท�าเดิม ๆ


                      ดังนั้นในแง่นี้จึงอาจกล่าวได้ว่า การให้อภัยเกี่ยวเนื่องกับเสรีภาพอย่างน้อยในสองมิติ ได้แก่

             การตัดให้หลุดพ้นจากวงจรที่เป็นอยู่เดิมท�าให้ทั้งผู้ให้อภัยและผู้ได้รับการอภัยสามารถเริ่มต้นความสัมพันธ์
             ใหม่ ๆ ร่วมกันได้ และการที่การให้อภัยเป็นการแสดงตนที่ไม่ได้ถูกก�าหนดจากการกระท�าเดิม ๆ ที่เป็น
             เงื่อนไข แสดงให้เห็นว่า การให้อภัยมีลักษณะที่เป็นเสรีภาพในตัวเองโดยไม่ได้ถูกก�าหนดมาก่อน


                      ในเรื่องของการปลดปล่อยหรือความสัมพันธ์ระหว่างความเป็นเสรีและการให้อภัยนี้ หากพิจารณา

             ในเชิงนิรุกติศาสตร์เราอาจพบร่องรอยของความสัมพันธ์นี้ชัดเจนขึ้นอีก ในคัมภีร์พันธสัญญาใหม่

             มีค�าภาษากรีกคอยเน่ที่ใช้ส�าหรับแสดงถึงความหมายของการให้อภัยอยู่สี่ค�า ได้แก่ apoluo, charizomai,
             aphiemi และ aphesis สามในสี่ของค�าเหล่านี้อันได้แก่ apoluo, aphiemi และ aphesis ต่างก็มีนัยยะ
                                                                           115
             และความหมายที่หมายถึงการปล่อยหรือการท�าให้มีเสรีด้วยกันทั้งสิ้น  โดยที่ apoluo โดยปกติแล้ว
             จะมีความหมายถึงการปล่อยหรือการสละ ในขณะที่ aphiemi และ aphesis ให้ความหมายถึงการปลดปล่อย

             หรือการท�าให้เป็นอิสระจากบาป  จึงไม่น่าแปลกใจว่า ส�าหรับอาเรนดท์แล้ว การให้อภัยจึงมีนัยยะ
                                          116
             ของเสรีภาพแฝงอยู่ ด้วยเหตุนี้จึงเป็นกิจกรรมที่มีความเหมาะสมที่จะถูกน�ามาใช้ส�าหรับพื้นที่ขอบเขต
             ทางการเมืองเนื่องจากมีความสอดคล้องไม่ขัดแย้งกันแต่อย่างใด


                      นอกจากนี้ อาเรนดท์ยังเห็นว่าการให้อภัยนี้จะสามารถเกิดขึ้นได้กับการแสดงตนที่ผู้แสดงตน

             กระท�าไปด้วยความพลั้งพลาด หรือไม่ได้ตั้งใจ หรือไม่ได้รู้หรือสามารถรู้ในการกระท�าและผลของ
             การกระท�าตนนั้น กล่าวง่าย ๆ คือ การกระท�าความผิดนั้นจะต้องเป็นการกระท�าความผิดที่ไม่ได้ตั้งใจ

             ที่จะใช้การกระท�านั้นของตนเป็นเครื่องมือเพื่อน�าไปสู่เป้าหมายที่จะไปละเมิดผู้อื่นแต่ต้น อย่างที่ได้กล่าว
             ไปแล้วว่า ส�าหรับอาเรนดท์ การให้อภัยเป็นกิจกรรมที่ถูกน�ามาใช้เพื่อเป็นการไถ่ถอนกิจกรรมการแสดงตน

             เท่านั้น มันไม่สามารถที่จะน�าไปใช้กับกิจกรรมประเภทงานได้ กล่าวอีกนัยหนึ่ง หากเกิดกรณีของการผิดพลาด
             ที่เกิดจากความตั้งใจ กิจกรรมนั้นจะไม่สามารถเรียกได้ว่าเป็นการแสดงตน หากแต่เป็นกิจกรรมที่ถูกวาง

             เป้าหมายและเครื่องมือไว้ก่อน และในกรณีนั้น การกระท�าเช่นนั้นจะไม่สามารถที่จะถูกไถ่ถอนคืนไปด้วย
             การให้อภัยได้ หากแต่จะต้องถูกน�าไปพิจารณากับกิจกรรมที่อยู่ในพื้นที่เดียวกันเท่านั้น 117


             115   Ibid., 267-68.
             116   Ibid., 269.
             117    Ibid., 272-73.
   66   67   68   69   70   71   72   73   74   75   76