Page 39 - kpiebook67011
P. 39

38      ประชาธิปไตยในความคิดของฮันนาห์ อาเรนดท์







             ในบูดาเปส ว่าเขามีเพื่อนร่วมชั้นที่เป็นชาวยิวตั้งแต่เด็ก ซึ่งคบหาและไปมาหาสู่กันแต่เด็ก จนถึงตอนที่

             ไอค์แมนเข้าร่วมพรรคนาซีแล้วก็ยังเดินด้วยกันคุยกันได้ปกติ หรือในช่วงที่เขาเป็นนายทหารแล้ว
             ในการจัดการกับการอพยพของยิวแล้ว เขายังได้มีภรรยาลับเป็นชาวยิว ซึ่งแม้ว่าการข่มขืนหญิงชาวยิว

             จะเป็นกิจกรรมยามว่างในภารกิจเคลื่อนย้ายจนเป็นปกติ แต่การมีความสัมพันธ์ของนายทหารระดับสูง
             ของ S.S. กับชาวยิวก็เป็นเรื่องไม่ปกติ อีกทั้งการร่วมเพศกับชาวยิวยังเป็นอาชญากรรมร้ายแรงอย่างหนึ่ง

             ของนาซีอีกด้วย  62


                      เขาเข้าร่วมกับพรรคนาซีในปี 1932 และเป็นสมาชิกหน่วย S.S. หลังจากเขาออกจากงาน
             ซึ่งเขามีความสุขมากในการออกจากงานนั้นเพื่อมาเข้าร่วมนาซี อาชีพที่เขารู้สึกชอบ และรัก หากมีใครถาม

             เขาคงเลือกที่จะถูกแขวนคอตายในต�าแหน่ง Obersturmbannführer ของเขา มากกว่าจะใช้ชีวิตอย่าง
             เรียบง่ายในต�าแหน่งพนักงานขายในบริษัทขายน�้ามัน  63


                      สังเกตได้ว่า สิ่งที่ไอค์แมนท�าไปนั้น เขาได้พยายามปฏิเสธการมีส่วนรู้เห็นโดยตรงกับ

             ตัวอาชญากรรม ปฏิเสธว่าไม่ได้เป็นคนที่มีพื้นเพชั่วร้าย และไม่ได้ตั้งใจที่จะให้เกิดโศกนาฎกรรมแบบนั้น
             แต่ที่ท�าไปนั้นเป็นเพียงเพราะค�าสั่งจากเบื้องบน และก็ยังไม่ได้ทราบอีกว่า การกระท�าที่ได้กระท�าไปนั้น

             จะท�าให้เกิดเป็นอาชญากรรมที่ร้ายแรง แต่แม้กระทั่งว่า ค�าสั่งนั้นจะน�าไปสู่อาชญากรรม เขาก็จะท�า
             แม้จะฟังดูซับซ้อนและอาจไม่เป็นเหตุเป็นผล แต่ข้อสรุปที่ได้ก็คือเขายึดเอาค�าสั่งเป็นหลัก และไม่ได้คิดว่า

             จะต้องมีการรับผิดชอบทางกฎหมาย เนื่องจากความรับผิดชอบไม่ได้อยู่ที่ผู้ได้รับค�าสั่ง แต่อยู่ที่ผู้ออกค�าสั่ง
             ตัวจริง ซึ่งแน่นอนว่าในอาณาจักรไรช์ที่สาม ก็คือท่านผู้น�าเท่านั้น ดังนั้น ผู้อยู่ใต้บังคับบัญชาไม่สามารถ

             ขัดค�าสั่ง— และแม้ว่าจะเป็นค�าสั่งที่ผิดมากน้อยขนาดไหน— ก็ต้องปฏิบัติตาม ค�ากล่าวหาว่าเขาก่อ
             อาชญากรรมต่อชาวยิวและมนุษยชาติในการมีส่วนร่วมท�าให้เกิด ‘Final Solution’ และสังหารหมู่ชาวยิวนั้น

             จึง “ไม่ได้มีความผิดตามค�าฟ้อง” ตามที่เขาถูกกล่าวหา





             3.2 ค�าตอบของ ‘Jewish Question’




                      ในงาน Eichmann in Jerusalem อาเรนดท์ได้แบ่งการจัดการชาวยิวของนาซี เป็น 3 ขั้นตอน
             โดยมีฮิตเลอร์ หรือท่านผู้น�าสูงสุดเป็นผู้สั่งการ ซึ่งได้แบ่งออกเป็น First Solution: Expulsion (การขับออก),

             Second Solution: Concentration (การกักกันคิด) และ Final Solution: Killing (การสังหาร)
                                                                                                      64
             ซึ่งเป็นการแสดงให้เห็นถึงพัฒนาการของความพยายามในการหาต�าแหน่งแห่งที่ให้กับชาวยิว ที่ต้องการ
             ท�าให้เยอรมนีนั้นบริสุทธิ์โดยไม่มีชาวยิว ซึ่งเริ่มจากการพิจารณาออกกฎหมายจ�ากัดสิทธิ์ชาวยิว ไปจนถึง


             62   Ibid., 30.

             63   Ibid., 34.
             64   Ibid., 36–111.
   34   35   36   37   38   39   40   41   42   43   44