Page 44 - kpiebook66025
P. 44
44 การรวมกลุ่มในรัฐสภาเพื่อกิจกรรมทางการเมืองของรัฐสภาอินโดนิเซีย
ให้แก่อินโดนีเซียมีความตั้งใจในการจัดตั้งสถาบันที่สามารถเป็นตัวแทนของประชาชน
ได้อย่างแท้จริง จนน�าไปสู่การก่อตั้งคณะกรรมการแห่งชาติอินโดนีเซีย (Komite
Nasional Indonesia Pusat : KNIP) เป็นสภาที่รับรองความเป็นรัฐอินโดนีเซียและ
มีกฎหมายที่กล่าวถึงบทบาทหน้าที่ รวมถึงต�าแหน่งแห่งที่ของคณะกรรมการแห่งชาติ
อินโดนีเซีย โดยมีประธานาธิบดีสุการ์โนและรองประธานาธิบดีฮัตตาท�าหน้าที่เป็น
ประธานในขณะนั้น และมีมติในการแต่งตั้งสมาชิกคณะกรรมการแห่งชาติอีก 135 คน
โดยมีหน้าที่ในการรับผิดชอบเพื่อการช่วยเหลือประธานาธิบดีและร่วมก�าหนดนโยบาย
19
แห่งรัฐ โดยปราศจากอ�านาจในการเสนอร่างกฎหมาย
คณะกรรมการแห่งชาติอินโดนีเซียเริ่มต้นท�างานในวันที่ 7 ตุลาคม 1945
มีสมาชิกกว่า 50 คน โดยได้เรียกร้องให้ประธานาธิบดีสุการ์โนอนุญาตให้กลุ่มของตน
มีสิทธิในการเสนอร่างกฎหมาย และมีนโยบายที่จะจัดตั้งสภาที่ปรึกษาประชาชน
และสภาผู้แทนราษฎร เพื่อท�าหน้าที่ในการเสนอร่างกฎหมายและก�าหนดนโยบาย
ของประเทศ ซึ่งการท�างานของคณะกรรมการแห่งชาติอินโดนีเซียมีความส�าคัญ
ในการขับเคลื่อนประเทศ ในวันที่ 1 พฤศจิกายน 1945 คณะกรรมการแห่งชาติ
อินโดนีเซียได้ด�าเนินการนโยบายต่างประเทศเพื่อให้อินโดนีเซียมีสถานะเท่าเทียม
นานาประเทศ ในการประชุมครั้งที่ 3 วันที่ 27 พฤศจิกายน 1945 มีแนวคิด
เพื่อการปฏิรูปประเทศและมีการต่อต้านกลุ่มทหารจากอังกฤษในอินโดนีเซีย
การประชุมเต็มคณะครั้งแรกของคณะกรรมการแห่งชาติอินโดนีเซียได้มี
การเลือกคัสแมน สิงออดิโม (Kasman Singodimedjo) เป็นประธาน และมีผู้ช่วยอีก
3 คน คือ สุตาร์โจ คาร์โตฮาดีกุสุมา (Sutardjo Kartohadikusumo) เป็นรองประธาน
คนที่หนึ่ง ลาทุฮาฮารี่ (Latuharhary) เป็นรองประธานคนที่สอง และ อดัม มาลิก
(Adam Malik) เป็นรองประธานคนที่สาม คณะกรรมการแห่งชาติอินโดนีเซียสามารถ
ออกกฎหมายได้ทั้งหมด 113 ฉบับ จะเห็นได้ว่าหลังจากคณะกรรมการแห่งชาติอินโดนีเซีย
ถูกก่อตั้งขึ้นมานั้นเป็นการเปลี่ยนแปลงที่ส�าคัญมีประธานาธิบดีเป็นสถาบันทาง
การเมืองหลักเพียงสถาบันเดียวในการบริหารประเทศ มีอ�านาจเบ็ดเสร็จเด็ดขาด
แต่เพียงผู้เดียว แต่เมื่อมีการน�าระบบรัฐสภาเข้ามาได้ท�าให้เกิดตรวจสอบและถ่วงดุล
19 Dwi Erianto, “Parlemen Indonesia dari Masa ke Masa,”