Page 49 - kpiebook66025
P. 49
49
หรือพรรคคอมมิวนิสต์อินโดนีเซีย และในปี 1985 กฎหมายว่าด้วยสภาที่ปรึกษา
ประชาชน สภาผู้แทนราษฎรและสภาผู้แทนภูมิภาค มีการแก้ไขเป็นครั้งที่ 2
โดยมีการเน้นความสัมพันธ์ของสภาผู้แทนราษฎรกับประธานาธิบดีสุฮาร์โต
โดยระบุชัดว่าประธานาธิบดีจะไม่รับผิดชอบต่อการกระท�าต่าง ๆ ของสภาผู้แทนราษฎร
เป็นการแยกบทบาทหน้าที่อย่างชัดเจนระหว่างฝ่ายบริหารและฝ่ายนิติบัญญัติ
แต่ในทางปฏิบัติแล้วนั้นฝ่ายบริหารท�าหน้าที่ควบคุมการท�างานของฝ่ายนิติบัญญัติ
โดยฝ่ายนิติบัญญัติมีหน้าที่เพียงรับค�าสั่งและรับรองการกระท�าต่าง ๆ ของฝ่ายบริหาร
เท่านั้น ไม่มีสิทธิ์แสดงความคิดเห็นใด ๆ ทั้งสิ้น
ในยุคระเบียบใหม่ สถาบันทางการเมืองที่มีบทบาทหลักอย่างสภาที่ปรึกษา
ประชาชนและสภาผู้แทนราษฎรท�าหน้าที่เป็นตัวแทนของรัฐบาลมากกว่าตัวแทน
ของประชาชน จนท�าให้เกิดการเปรียบเทียบการท�างานของรัฐสภาในยุคระเบียบใหม่
ของสุฮาร์โตและยุคระเบียบเก่าของสุการ์โน เพราะจ�านวนพรรคการเมืองที่ได้รับ
ที่นั่งในรัฐสภามีเพียง 3 พรรค นั่นคือ พรรคกอลคาร์ พรรคประชาธิปไตยอินโดนีเซีย
(Partai Demokrasi Indonesia : Indonesian Democratic Party หรือ PDI) และ
พรรคสหพัฒนาการ (Partai Persatuan Pembanguan : United Development
Party หรือ PPP) ตั้งแต่นั้นมารัฐสภาท�าหน้าที่และมีบทบาทตามบทบัญญัติในรัฐธรรมนูญ
ปี 1945 นั่นคือ ร่างกฎหมาย การตรวจสอบและการจัดท�างบประมาณ โดยทุกอย่าง
ผ่านการกลั่นกรองจากประธานาธิบดีก่อนเสมอ จึงกล่าวได้ว่ารัฐสภาท�าหน้าที่เป็นเพียง
แค่ตราประทับรับรองเพื่อให้กระบวนการถูกต้องตามครรลองความเป็นประชาธิปไตย
การครอบง�าของพรรคกอลคาร์ในรัฐสภาชัดเจนมากขึ้น เริ่มต้นตั้งแต่
การเลือกตั้งทั่วไปในปี 1971 ยาวนานจนกระทั่งการเลือกตั้งครั้งสุดท้ายในยุคระเบียบ
ใหม่ปี 1997 กล่าวคือ ตั้งแต่การเลือกตั้งทั่วไปปี 1971 พรรคกอลคาร์มีที่นั่งในรัฐสภา
236 ที่นั่ง จาก 360 ที่นั่ง ในฐานะสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และทุกครั้งหลังการเลือกตั้ง
พรรคกอลคาร์จะมีที่นั่งในฐานะสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเพิ่มขึ้น โดยเปรียบเทียบ
จากผลการเลือกตั้งในปี 1982 และการเลือกตั้งปี 1987 ซึ่งพรรคกอลคาร์มีที่นั่ง
ในสภาเพิ่มขึ้นจาก 299 จาก 400 ที่นั่งของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทั้งหมด ดังนั้น
จึงกล่าวได้ว่า อ�านาจสูงสุดของพรรคกอลคาร์ในรัฐสภาปรากฏชัดเจนมากขึ้น