Page 20 - kpiebook66023
P. 20
มาตรการทางกฎหมาย : ศึกษารูปแบบนิติบุคคลที่เหมาะสมเพื่อการส่งเสริมวิสาหกิจเพื่อสังคม
26
จากธุรกิจจะน าไปใช้เพื่อประโยชน์ของสังคมเป็นหลัก เช่น Grameen Bank ใช้วิธีไม่ให้เงินปันผลเลย
ในขณะที่กฎหมาย Community Interest Company ของสหราชอาณาจักรเลือกวิธีการจ ากัดสัดส่วนเงิน
ปันผลที่จะให้ผู้ถือหุ้นแทน ในขณะที่กฎหมายวิสาหกิจเพื่อสังคมของประเทศไทยเลือกน ามาใช้ทั้งสองแบบ
หรือรูปแบบองค์กรวิสาหกิจเพื่อสังคมของสหรัฐอเมริกา เช่น Low-Profit Limited Liability Company
(L3C), Benefit Corporation (B-Corp) และ Flexible Purpose Corporation (FPC) กลับไม่มีการ
27
ก าหนดในเรื่องของการแบ่งปันก าไรไว้เลย
แต่ละแนวทางต่างก็มีข้อดีและข้อเสีย กล่าวคือ การไม่ให้มีการปันผลเลย ท าให้การดึงดูด
นักลงทุนทั่วไปเข้ามาลงทุนในภาคธุรกิจเพื่อสังคมเป็นเรื่องยาก เพราะนักลงทุนส่วนใหญ่ย่อมหวังก าไรกับ
สิ่งที่ตนลงทุนไปไม่มากก็น้อย ซึ่งแน่นอนว่ามีกลุ่มนักลงทุนเพื่อสังคม (social investors) แต่ยังมีจ านวน
น้อยมาก การส่งเสริมวิสาหเพื่อสังคมจึงจ าเป็นต้องดึงดูดนักลงทุนส่วนใหญ่ด้วย ดังที่ประเทศไทยใช้วิธีการ
ดึงดูดโดยการให้สิทธิประโยชน์แก่นักลงทุนเหล่านี้ เช่น สิทธิประโยชน์ทางภาษี ในอีกทางหนึ่ง การจ ากัด
สัดส่วนของเงินปันผลเป็นเรื่องที่ต้องหาข้อมูลเชิงประจักษ์มาสนับสนุนว่าสัดส่วนใดเหมาะสม และเมื่อ
28
สถานการณ์ทางเศรษฐกิจเปลี่ยนแปลงไป สัดส่วนเดิมก็อาจไม่เหมาะสมอีกต่อไป
2.4.4 รูปแบบองค์กรที่พัฒนำจำกองค์กรภำครัฐ (The Public-Sector Social
Enterprise Model: PSE)
บทบาทและความส าคัญของภาครัฐในการเข้าไปมีส่วนร่วมกับภาคเอกชนและภาคประชา
สังคมเพื่อแก้ปัญหาสังคมต่าง ๆ เป็นสิ่งที่ปฏิเสธไม่ได้เลย ในอดีตภาครัฐจะต้องเป็นผู้น าหลักในการ
แก้ปัญหาสังคม แต่ปัจจุบันมีองค์กรรูปแบบต่าง ๆ มากมายที่พร้อมจะเข้ามีส่วนช่วยเหลือและแก้ปัญหา
สังคม เหตุผลหนึ่งเพราะการด าเนินงานของภาครัฐนั้นมักจะมีความยุ่งยากและล่าช้า ท าให้ไม่สามารถเข้า
จัดการปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ ต่อมาเมื่อองค์กรเหล่านี้เข้มแข็งขึ้นจนสามารถยืนหยัดด้วยตนเอง ก็จะ
ลดการพึ่งพาความช่วยเหลือจากภาครัฐลง จนในที่สุดสามารถบริหารจัดการได้อย่างเป็นอิสระ (public-
sector spinoffs) ปัจจุบันองค์กรเหล่านี้ส่วนใหญ่จะมีรายได้มาจากการรับโครงการจากภาครัฐในฐานะ
29
คู่สัญญา และภาครัฐเชื่อมั่นเพราะเคยจัดการดูแลโดยตรงมาก่อน
ตัวอย่างของวิสาหกิจเพื่อสังคมที่เกิดขึ้นจากภาครัฐ คือ “โครงการประชารัฐ” ซึ่งเป็นความ
ร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชน โครงการนี้ด าริขึ้นเพื่อส่งเสริมความร่วมมือระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน
และประชาสังคมในรูปแบบของธุรกิจเพื่อสังคมที่จดทะเบียนเป็นบริษัทจ ากัดซึ่งมี “5 ภาคส่วน”
เป็นเจ้าของร่วมกัน ได้แก่ รัฐบาล บริษัทเอกชน นักวิชาการ องค์กรประชาสังคม และสมาชิกชุมชน ปัจจุบัน
บริษัทประชารัฐรักสามัคคีของจังหวัดต่าง ๆ ก็ได้มีการจดทะเบียนเป็นวิสาหกิจเพื่อสังคมแล้ว ในประเภท
วิสาหกิจเพื่อสังคมที่ไม่ประสงค์จะแบ่งปันก าไรให้แก่ผู้ที่เป็นหุ้นส่วนหรือผู้ถือหุ้น
โดยสรุปแล้ว จะเห็นได้ว่า มีการพัฒนากฎหมายรูปแบบองค์กรส าหรับวิสาหกิจเพื่อสังคม
ที่เกี่ยวข้องกับองค์กรไม่แสวงหาก าไรและองค์กรธุรกิจอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งการออกกฎหมายใหม่
26 Henry B. Hansmann. (1980). The Role of Nonprofit Enterprise. The Yale Law Journal, 89(5), pp. 835-901.
27 Dana Brakman Reiser. (2014). Regulating Social Enterprise. UC Davis Business Law Journal, 14, pp. 231-246.
28 Defourny and Nyssens, supra note 3, at 2491-92. 25
29 Ibid, p. 2485.