Page 16 - kpiebook66023
P. 16
มาตรการทางกฎหมาย : ศึกษารูปแบบนิติบุคคลที่เหมาะสมเพื่อการส่งเสริมวิสาหกิจเพื่อสังคม
ธุรกิจมาปรับใช้กับองค์กรไม่แสวงหาก าไร เช่น มูลนิธิที่สร้างรายได้เสริมจากการขายสินค้าและบริการซึ่ง
อาจผลิตโดยกลุ่มผู้ด้อยโอกาสที่มูลนิธินั้นช่วยเหลือ
ประเด็นทางกฎหมายที่เกิดขึ้นคือ กฎหมายอนุญาตให้องค์กรไม่แสวงหาก าไรสามารถ
สร้างรายได้ได้หรือไม่ เพียงใด เช่น สามารถหารายได้อย่างอิสระเช่นเดียวกับบริษัทได้หรือไม่ เพราะ
โดยทั่วไปแล้วกฎหมายจะก าหนดให้องค์กรไม่แสวงหาก าไรต้องมีวัตถุประสงค์เพื่อสังคม และมักจะห้ามหรือ
จ ากัดการสร้างและแบ่งปันก าไรแก่สมาชิกในองค์กร เพราะรายได้ทั้งหมดจะต้องใช้เพื่อประโยชน์ต่อสังคม
ส่วนรวมเท่านั้น นอกจากนี้ องค์กรเหล่านี้ส่วนใหญ่จะได้รับการสนับสนุนเป็นพิเศษจากภาครัฐอยู่แล้ว หาก
ให้สามารถด าเนินงานได้เหมือนบริษัทอาจจะไม่เป็นธรรมได้ เช่น กฎหมายมูลนิธิของประเทศไทยนั้น ไม่
อนุญาตให้มีการประกอบธุรกิจได้ และจะต้องปฏิบัติตามวัตถุประสงค์เพื่อสังคมอย่างเคร่งครัด ดังนั้น เมื่อ
รูปแบบองค์กรไม่แสวงหาก าไรต้องมีการปรับตัวเพื่อขยายแหล่งรายได้และทรัพยากรที่พึ่งพาตลาดมากขึ้น
กฎหมายก็ควรต้องมีการปรับตัวเช่นเดียวกันเพื่อช่วยเหลือองค์กรเหล่านี้หรือไม่
แนวทางในการพัฒนากฎหมายอาจท าได้หลากหลายแบบ เช่น การแก้ไขปรับปรุง
กฎหมายที่มีอยู่เดิมแล้ว หรือร่างกฎหมายขึ้นมาใหม่เพื่อรองรับองค์กรรูปแบบใหม่โดยเฉพาะ อย่างไรก็ตาม
การแก้ไขกฎหมายเดิมอาจส่งผลกระทบต่อองค์กรที่จัดตั้งอยู่ก่อนแล้วได้ เช่น หากจะแก้ไขกฎหมายมูลนิธิ
ของประเทศไทยให้มูลนิธิสามารถประกอบธุรกิจได้เช่นเดียวกับบริษัทน่าจะเป็นไปได้ยาก เพราะจะกระทบ
ต่อหลักการส าคัญของมูลนิธิในเรื่องของวัตถุประสงค์เพื่อสังคมได้ แต่การพัฒนากฎหมายใหม่ที่ออกมา
รองรับความเป็นลูกผสมของมูลนิธิอาจมีความเป็นไปได้มากกว่า เช่น สหราชอาณาจักรได้ออกกฎหมายว่า
ด้วยองค์กรไม่แสวงหาก าไรรูปแบบใหม่ที่เรียกว่า charitable incorporated organisation (CIO)
ซึ่งมีองค์ประกอบบางประการไม่แตกต่างจากรูปแบบบริษัท ซึ่งบริษัทนั้นเป็นรูปแบบองค์กรที่ถูกออกแบบ
18
มาเพื่ออ านวยความสะดวกในการหารายได้จากตลาดโดยเฉพาะ
ส าหรับพระราชบัญญัติส่งเสริมวิสาหกิจเพื่อสังคมของประเทศไทยนั้น ไม่ได้เป็นกฎหมาย
รูปแบบองค์กรในลักษณะเดียวกับ CIO แต่เป็นกฎหมายที่มีเจตนารมณ์เพื่อส่งเสริมและให้สิทธิประโยชน์แก่
วิสาหกิจเพื่อสังคมในรูปแบบต่าง ๆ ในประเทศไทยเป็นหลัก กฎหมายจึงไม่เน้นที่การก าหนดรูปแบบองค์กร
ที่จัดตั้ง แต่จะเน้นที่การพิจารณาว่ากิจกรรมประเภทใดที่เหมาะสมจะได้รับการสนับสนุน กฎหมายลักษณะ
นี้จะเกิดข้อจ ากัดบางประการเพราะกฎหมายจะก าหนดเงื่อนไขที่เป็นลักษณะส าคัญของวิสาหกิจเพื่อสังคม
ซึ่งเป็นองค์กรลูกผสม แต่กฎหมายรูปแบบองค์กรที่มีอยู่ในปัจจุบัน เช่น มูลนิธิหรือบริษัท อาจไม่สามารถ
รองรับลักษณะลูกผสมของวิสาหกิจเพื่อสังคมได้อย่างมีประสิทธิภาพ เป็นต้น
ในกรณีที่ไม่ยังไม่มีการปรับปรุงแก้ไขกฎหมายที่มีอยู่เดิม หรือไม่มีกฎหมายใหม่ออกมา
รองรับผู้ประกอบการวิสาหกิจเพื่อสังคม (social entrepreneurs) อาจต้องหาทางแก้ปัญหาโดยวิธีอื่น เช่น
การจัดโครงสร้างองค์กรใหม่ อาจโดยการจัดตั้งองค์กรที่สามารถประกอบธุรกิจได้เพิ่มเติมจากองค์กรไม่
แสวงหาก าไร เพื่อท ากิจกรรมทางธุรกิจโดยเฉพาะ เช่น การจัดตั้งบริษัทจ ากัดขึ้นโดยมีมูลนิธิเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่
ในกรณีเช่นนี้ ก าไรของบริษัทก็จะโอนมายังมูลนิธิในรูปแบบเงินปันผล ตัวอย่างเช่น มูลนิธิตั้งขึ้นเพื่อให้
18 HM Land Registry UK. (2019). Practice Guide 14A: Charitable Incorporated Organisations. GOV.UK, 20
December 2019. www.gov.uk/government/publications/charitable-incorporated-organisations/practice- 21
guide-14a-charitable-incorporated-organisations