Page 13 - kpiebook66023
P. 13

มาตรการทางกฎหมาย : ศึกษารูปแบบนิติบุคคลที่เหมาะสมเพื่อการส่งเสริมวิสาหกิจเพื่อสังคม



























                                         ที่มา Defourny J. and Nyssens M. (2017), p. 2479.
                         เมื่อพิจารณาจากรูปสามเหลี่ยมดังกล่าว จะเห็นว่าแต่ละมุมของสามเหลี่ยมหมายถึงผลประโยชน์
                  3 ด้าน และมีกลุ่มองค์กรที่อยู่ภายใต้แนวคิดของผลประโยชน์เหล่านั้น กล่าวคือ ทางมุมขวาเป็น

                  ผลประโยชน์ด้านเงินทุน (Capital Interest – CI) โดยองค์กรที่ให้ความส าคัญกับเงินทุนคือ องค์กรภาค
                  ธุรกิจที่แสวงหาก าไรเป็นส าคัญ (For-Profit Organizations – FPOs) ด้านบนของ FPOs มีการน าแนวคิด
                  เกี่ยวกับความรับผิดชอบต่อสังคม หรือ CSR มาใช้ในการด าเนินธุรกิจ จะเห็นว่า CSR นั้นจะใกล้ไปทางมุม
                  ด้านบนซึ่งเป็นผลประโยชน์ของส่วนรวม (General Interest – GI) ซึ่งหมายถึง องค์กรแสวงหาก าไรที่มีการ

                  ค านึงถึงประโยชน์ของสาธารณะด้วย ในขณะที่ SMEs จะอยู่ด้านซ้ายของ FPOs จะใกล้ไปทางมุมซ้ายของ
                  สามเหลี่ยม ซึ่งเป็นฐานของผลประโยชน์ร่วมกันของสมาชิก (Mutual Interest – MI) แม้ว่า SMEs จะเป็น
                  กิจการที่มุ่งผลประโยชน์ด้านทุนเช่นเดียวกับ FPOs โดยเฉพาะกิจการที่เป็นธุรกิจครอบครัว แต่กิจการ

                  เหล่านี้อาจสร้างสมดุลในลักษณะที่ต่างออกไประหว่างการแสวงหาผลก าไรและเป้าหมายที่มิใช่ด้านการเงิน
                         องค์กรที่เป็นการรวมกลุ่มกันโดยสมัครใจ (voluntary organizations) ซึ่งแสวงหาผลประโยชน์

                  ให้แก่สมาชิกของตนถูกก าหนดให้อยู่ตรงมุมซ้ายของสามเหลี่ยม ซึ่งหมายถึงการมีผลประโยชน์ร่วมกัน (MI)
                  โดยมีสหกรณ์ (coops) ในรูปแบบดั้งเดิมทั้งหมดอยู่ใต้เส้นประสีแดง ซึ่งหมายถึงแนวคิดว่าด้วยแหล่ง
                  ทรัพยากรและรายได้ที่หลากหลาย โดยสหกรณ์แบบดั้งเดิมนั้นอยู่ภายใต้แหล่งเงินได้จากตลาดเป็นหลัก

                  (Dominant market income) เช่นเดียวกับ FPOs ที่อยู่ด้านขวาสุด (CI) แต่สหกรณ์เน้นประโยชน์ของ
                  สมาชิก แต่ FPOs เน้นที่ก าไร ในทางตรงกันข้าม ด้านบนของสหกรณ์เป็นองค์กรที่ท าเพื่อสมาชิกเป็นหลัก
                  เช่นเดียวกัน เรียกว่า Mutual Interest Association (MI-Assoc) เช่น วิสาหกิจชุมชน หรือสมาคมวิชาชีพ
                  แต่จะต่างจากสหกรณ์ในเรื่องของที่มาของรายได้ที่อยู่ภายใต้แนวคิดของการหารายได้และทรัพยากรแบบ

                  ผสมผสาน (Hybrid resources) เช่น ค่าสมาชิก การขายสินค้าที่บาร์หรือโรงอาหาร และทรัพยากรอื่น ๆ
                  เช่น โครงการอาสาสมัคร และเงินสมทบจากภาครัฐในรูปแบบของโครงสร้างพื้นฐาน ไม่ได้เน้นการแสวงหา
                  รายได้จากตลาดเพื่อประโยชน์ของสมาชิก อย่างไรก็ตาม การหาก าไรของสหกรณ์และการหาก าไรของ FPOs
                  เช่น บริษัทนั้นก็ยังแตกต่างกัน ส าหรับสหกรณ์นั้น การแสวงหาก าไรเป็นเครื่องมือในการสร้างกิจกรรม

                  การผลิต และผลก าไรเหล่านี้ก็จะน ามากระจายในลักษณะของเงินปันผลโดยมีเพดานจ ากัด (cap) หรือน ามา  18
   8   9   10   11   12   13   14   15   16   17   18